ระทึก! ไฟไหม้กุฏิวัดนวลจันทร์ พระวิ่งจีวรปลิวดับไฟ สุดท้ายวอดทั้งหลัง

6 เมษายน 2566 เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา พ.ต.ท.วิทยา คงทอง สารวัตร (สอบสวน) สน.โคกคราม พร้อมสายตรวจ สน.โคกคราม เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเขตบึงกุม เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้กุฏิ 14 วัดนวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ

ที่เกิดเหตุพบเป็นกุฏิ 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นปูน ชั้นบนเป็นอาคารไม้ทรงไทย ถูกเพลิงลุกไหม้ โดยพระลูกวัดอยู่ระหว่างช่วยกันเอาน้ำมาดับไฟ แต่พระลูกวัด และชาวบ้านบริเวณดังกล่าว ช่วยกันดับไม่ไหว เนื่องจากเพลิงได้ลุกไหม้เพิ่มขึ้นทั้งหลัง

จึงได้ถอยออกมาจากบริเวณที่เกิดเหตุ และให้คนที่อยู่บริเวณดังกล่าว รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยกันฉีดน้ำ จนสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในเวลาประมาณ 10 นาที โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บบริเวณดังกล่าว

 

พระอาจารย์พระมหามนู เมธิโก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสนวลจันทร์ กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น.ที่ผ่านมา ขณะนั่งอยู่ภายในบริเวณวัด มีเสียงตะโกนออกมาจากบริเวณที่เกิดเหตุว่า ไฟไหม้ จึงรีบวิ่งไปดู พร้อมกับถังดับเพลิงจำนวน 3 ถัง แต่เนื่องจากบริเวณชั้น 2 เป็นไม้

และห้องต้นเพลิงถูกล็อกเอาไว้ จึงไม่สามารถเข้าระงับต้นเพลิงได้ จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เข้าช่วยเหลือ ก่อนไฟโหมลุกไหม้วอดเกือบทั้งหลัง หลังจากนี้ จะต้องทำการตรวจสอบ บริเวณดังกล่าวทั้งหมด เนื่องจากอากาศค่อนข้างร้อน และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวซ้ำ

 

ทั้งนี้ สำหรับกุฏิที่เกิดเหตุ เป็นอาคารเก่าก่อสร้างมานานแล้ว มีพระอาศัยอยู่ 1 รูป อายุ 60 ปี แต่ในขณะเกิดเหตุได้ออกไปทำกิจนิมนต์ จึงไม่มีใครอยู่ ส่วนสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นเพราะไฟฟ้าลัดวงจร อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้กุฏิหลังนี้ เคยทำระบบไฟใหม่ 2 - 3 ปีที่ผ่านมา 

นอกจากนี้พบว่า มีกลุ่มควันบริเวณเพดานกุฏิดังกล่าว และมีประกายไฟขึ้นมา เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนพนักงานสอบสวน ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบถึงสาเหตุที่แท้จริงต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเกิดเหตุได้มี อ๋อม สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย และ ทอม ภัทรดนัย ใหม่พระเนตร ผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณดังกล่าว เข้ามาบริเวณที่เกิดเหตุ และให้กำลังใจพระลูกวัด ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณดังกล่าว