
5 มีนาคม 2566 จากเหตุการณ์ พนักงานรักษาความปลอดภัยของผับแห่งหนึ่ง ย่านถนนข้าวสาร ใส่กุญแจมือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ด้วยเหตุเข้าใจผิดคิดว่า นักท่องเที่ยวขโมยน้ำดื่ม ก่อนที่จะถูกตบหน้า 2 ครั้ง ขณะที่ทางร้านดังกล่าวได้มีไล่ออกพนักงานแล้ว นั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุด นายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ ได้พา ชายสัญชาติอเมริกัน ผู้เสียหาย เข้าพบ พนักงานสอบสวน บก.ป. แจ้งความเอาผิดเจ้าของผับและการ์ดที่จับใส่กุญแจมือแล้วทำร้ายร่างกาย 2 คน
โดยผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เกิดเหตุช่วงคืนวันที่ 24 ก.พ. ต่อเนื่องวันที่ 25 ก.พ. เวลาประมาณ 02.00 น. ตนพร้อมด้วย น้องชายและเพื่อนผู้หญิงสองคนไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งนี้ ระหว่างนั้นเพื่อนได้เบียร์มาดื่ม 2 ขวด แต่ทางบาร์เทนเดอร์ได้ยื่นน้ำเปล่าให้ด้วย จึงคิดว่าน้ำฟรี จึงถือกลับโต๊ะด้วย
ต่อมาปรากฏว่า ทางการ์ดได้เดินมาเรียกเข้าไปคุยอีกห้องหนึ่ง พร้อมกับมีการล็อกกุญแจมือ และทำร้ายร่างกายตบหน้าประมาณ 2-3 ครั้ง ก่อนใช้มีดยาวข่มขู่ โดยระบุว่าขโมยน้ำดื่ม หลังเกิดเหตุเพื่อนได้แนะนำให้ตัวเองปรึกษาทนาย จึงเข้ามาแจ้งความวันนี้
ตนยืนยันว่านำน้ำดื่มกลับโต๊ะ เพราะคิดว่าแจกฟรี เนื่องจากในต่างประเทศเวลาที่ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มักจะให้น้ำเปล่าฟรี จึงคิดว่าประเทศไทยน่าจะเหมือนกัน ไม่ได้มีเจตนาขโมยอย่างแน่นอน เพราะมีเงินจ่าย ส่วนที่บอกว่าพบยาเสพติดด้วยนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
ผู้เสียหาย บอกอีกว่า เข้ามาประเทศไทยกว่า 2 ปีแล้วเป็นครูสอนภาษา ก่อนที่กลับไปประเทศตัวเองทำงานเป็นช่างประปา แล้วกลับมาเที่ยวประเทศไทยช่วงเดือน ม.ค.และจะเดินทางกลับเดือนเม.ย. ที่ผ่านมาประทับใจประเทศไทย แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้แต่ก็ไม่รู้สึกว่ากระทบความรู้สึกที่รักประเทศไทยและคนไทย
ขณะที่ นายเกรียงศักดิ์ ทนายความระบุว่า ที่เข้ามาแจ้งความวันนี้ ในส่วนของการ์ด ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย และพกพาอาวุธมีด และอยากให้ตำรวจตรวจสอบสถานบันเทิงที่เกิดเหตุว่า มีการเปิดให้บริการเกินที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ โดยเรื่องที่เกิดขึ้นทางร้านไม่เคยติดต่อกลับผู้เสียหายเลย
ด้าน นายประสิทธิ์ สิงห์ดำรงค์ ทนายความของทางร้าน พร้อมด้วย นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจถนนข้าวสาร ได้เดินทางมาที่กองปราบ เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย และแสดงความรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นโดยบอกว่าที่ผ่านมาพยายามติดต่อหาผู้เสียหายแต่ไม่สามารถติดต่อได้ เมื่อรู้ว่าวันนี้จะเข้ามาแจ้งความจึงเดินทางมารอเพื่อขอเจรจา
นายสง่า ระบุว่า หลังเกิดเหตุได้พูดคุยกับกลุ่มการ์ดผู้ก่อเหตุ บอกว่าเป็นความเข้าใจผิดคิดว่านักท่องเที่ยว จะขโมยน้ำดื่ม แต่ก็ยอมรับว่ามีการใส่กุญแจมือซึ่งเป็นการทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เรียกเจ้าของร้านมาทำความเข้าใจมาตรการ โดยมีการสั่งปิด 3 วันตามที่ทำข้อตกลงกันไว้ในมาตรการ
ด้านนายประสิทธิ์ ยืนยันว่า ทางร้านไม่ได้ละเลยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมไล่การ์ดชุดที่ดูแลความปลอดภัยวันเกิดเหตุออก 6 คน รวมทั้งผู้จัดการร้านอีก1คน
“หลังเกิดเหตุได้ตรวจสอบ ยืนยันได้ว่า การ์ดไม่ได้ใช้อาวุธมีดก่อเหตุตามที่ถูกกล่าวอ้าง ส่วนเรื่องการใช้กุญแจมือปกติจะต้องเป็นการ์ดที่ผ่านการอบรมจึงจะใช้ได้ แต่การ์ดชุดนี้ยอมรับว่ามีการใช้กุญแจมือโดยพลการ” นายประสิทธิ์ กล่าว