รอง ผบช.น. ยืนยันสอบตำรวจ สน.ห้วยขวาง ไม่มีการเรียกรับเงินดาราสาวไต้หวัน

26 มกราคม 2566 ความคืบหน้ากรณี เพจเฟซบุ๊ก “หนีห่าวไต้หวัน ฉันมาแล้ว” โพสต์เรื่องราวของดาราสาวชาวไต้หวัน ที่ถูกตำรวจไทยรีดไถ ขณะมาท่องเที่ยวเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า (อันยู๋ชิง)​ หรือ Charlene An ดาราชาวไต้หวัน (อ้างว่า) ถูกตำรวจไทยขอค้นตัว ค้นกระเป๋า รีดไถเงินกว่า 20,000 บาทก่อนถึงยอมปล่อยตัว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• “บิ๊กตู่” สั่งสอบปมดารา “ไต้หวัน” อ้างถูก ตำรวจไทยรีดเงิน ผิดจริงห้ามละเว้น
• ชัดเจน! ปมดาราสาวไต้หวัน โวยถูกด่าน ตร. รีดไถ ที่แท้โดนจับพกบุหรี่ไฟฟ้า
• ตร.ไทยฉาวต่อเนื่อง ดาราสาวไต้หวัน อ้าง ถูกค้นตัวรีดเกือบ 3 หมื่นแลกปล่อยตัว

ล่าสุด มีรายงานว่า ตำรวจป้องกันปราบปราม สน.ห้วยขวาง ประมาณ 7 นาย ได้เข้าให้ข้อมูลกับพล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น. หลังถูกกล่าวหาจากนักแสดงไต้หวันว่า เรียกรับผลประโยชน์แล้ว

 

พล.ต.ต.สำเริง เปิดเผยว่า จากการสอบถามกับ ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ทั้ง 6 -​ 7 นาย ที่เข้าให้ข้อมูลยืนยัน  ไม่มีการเรียกรับเงินนักท่องเที่ยวชาวไต้หวัน แต่ยอมรับว่า มีการโต้เถียง เนื่องจากขอเรียกตรวจสอบหนังสือเดินทาง แต่นักท่องเที่ยวไต้หวันคนนี้ มีอาการมึนเมา และอ้างว่า ไม่ได้พกพาหนังสือเดินทางติดตัวมาด้วย และได้บอกอีกว่า สามารถให้เพื่อนนำมาจากที่พัก ให้ตำรวจตรวจสอบได้

แต่เนื่องจากการสื่อสารและภาษาไม่เข้าใจกัน ประกอบกับในเวลาดังกล่าว เป็นช่วงใกล้เวลาของการยกเลิกจุดตรวจ ว. 43 เคลื่อนที่ จึงอนุญาตให้นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวกลับไปก่อน เนื่องจากหัวหน้าชุดจุดตรวจ ประเมินแล้วว่า ไม่น่าจะเป็นบุคคลที่เป็นภัยหรือเป็นอันตราย

"ส่วนกรณีพบบุหรี่ไฟฟ้า ที่ตัวของนักท่องเที่ยวไต้หวันคนนี้ ยอมรับว่า ตำรวจไม่ได้มีการจับปรับ แต่ได้ชี้แจงว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีความผิดตามกฎหมายของประเทศไทย " 

พล.ต.ต.สำเริง ระบุอีกว่า การจะเชิญตัวนักท่องเที่ยวไต้หวันคนนี้มาให้ข้อมูล คงเป็นไปได้ยาก เพราะขณะนี้ ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่เบื้องต้นทราบว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เพื่อข้อมูลข้อเท็จจริงนี้แล้ว

ขณะนี้อยู่ระหว่างการ รวบรวมพยานหลักฐาน กล้องวงจรปิดในจุดต่าง ๆ เพื่อมาหักล้างและยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้มีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ ตามที่ถูกกล่าวอ้าง แต่ในส่วนของการพิจารณา ในฐานะที่ตำรวจไทย ถูกกล่าวหา เสื่อมเสียชื่อเสียงหรือไม่ คงเป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาระดับสูง หรือฝ่ายกฎหมายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่พิจารณาดำเนินคดีย้อนหลังได้หรือไม่"

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความเสื่อมเสีย และในฐานะผู้บังคับบัญชาได้ให้กำลังใจนายตำรวจชั้นผู้น้อยระดับปฏิบัติการ ไม่ให้เสียขวัญและกำลังใจไปกว่านี้

"เหตุการณ์นี้คงไม่สามารถตอบได้ว่า มีเจตนาต้องการลดความน่าเชื่อถือ ต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยหรือไม่" 

 

ขณะที่ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า ด่านดังกล่าวเป็นด่านของ สน.ห้วยขวาง โดยวันนั้นรถโดยสารขับเข้ามาที่ด่านจุดสกัดเคลื่อนที่เร็ว ซึ่งตำรวจใช้ระยะเวลาตั้งด่านประมาน 1 ชม. จากการตรวจสอบพบว่า ในรถคันดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวชาวจีน ชาย 3 คน และ หญิง 1 คน ซึ่งทั้ง 4 คนไม่มีพาสปอร์ต หรือสำเนาพาสปอร์ตมาแสดง และไม่สามารสื่อสารรู้เรื่อง

ในระหว่างนั้น ทางกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ได้ให้เพื่อนส่งภาพพาสปอร์ต ที่อยู่ที่โรงแรมมาให้ แต่เวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง ปรากฎว่าไม่มีการภาพพาสปอร์ตมาให้  จากนั้นนักท่องเที่ยวทั้งหมด 4 คน ได้แสดงอาการจะโวยวาย เจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวไป เนื่องจากพิจารณาเบื้องต้น รู้แหล่งที่พักชัดเจนของนักท่องเที่ยวทั้งหมด

“ยืนยันว่า ไม่มีการเรียกเงินตามข่าว จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ในวันเกิดเหตุยืนยันว่า ไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ หรือเรียกรับเงินใด ๆ ทั้งสิ้น และตำรวจไม่ได้เดินนำนักท่องเที่ยวไปในซอย ตามคำกล่าวอ้าง หรือมีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีแต่อย่างใด แต่ตำรวจจะต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น”

อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์นี้ อาจทำให้ตำรวจเสียภาพลักษณ์ หากตรวจสอบแล้ว ไม่ได้เป็นไปตามที่นักแสดงชาวไต้หวันกล่าวอ้าง ตำรวจจะต้องดำเนินการบางอย่าง เพื่อชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้อง 
 

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของดาราสาวไต้หวัน ที่โพสต์ข้อความระบุว่า ถูกตำรวจไทยรีดไถจำนวน 2 หมื่นบาทนั้น ล่าสุด สาวไต้หวันคนดังกล่าว ได้มีการส่งข้อมูล แชร์โลเคชั่นจุดเกิดเหตุ ในวันที่เกิดเหตุ ให้กับเพื่อนสนิท เพื่อที่จะส่งต่อให้กับทางตำรวจไทยอีกทอดหนึ่ง โดยจุดพิกัดสถานที่เกิดเหตุ บนถนนรัชดาภิเษก ใกล้เคียงกับสถานเอกอัครราชทูตจีน อยู่ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง