กองปราบรวบ 2 คนร้าย รับจ้างเด็ดหัว ส.อบต.อิปัน มือปืนไหวตัวหนีรอด
ตำรวจกองปราบ เปิดปฏิบัติการจับแก๊ง "เอก มหาราช" มือปืนทมิฬภาคใต้ รับงานยิงส.อบต.อิปัน จ.สุราษฏร์ธานี เสียชีวิต เจ้าหน้าที่สามารถรวบ คนชี้เป้าและคนคุ้มกัน ส่วนมือปืนไหวตัวทันหลบหนีไปได้ เผยค่าจ้างเด็ดหัว 3 แสนบาท สาเหตุปมชู้สาว
23 มกราคม 2566 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. นำกำลังตำรวจกองปราบเข้าจับกุมนายภานุพงษ์ หรือ ปอน (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี และ นายทวีศักดิ์ หรือ หนึ่ง (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ได้จากพื้นที่ อ.พระแสง จ.สุราษฏร์ธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเวียงสระที่ 14-15/2566 ลงวันที่ 23 มกราคม 2566 และเป็นคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนประกบยิง นายบุญธรรม พุฒสุขขา หรือ อบต.ชู อายุ 54 ปี ตำแหน่ง ส.อบต. หมู่ 4 ต.อิปัน อ.พระแสง จ.สุราษฏร์ธานี เสียชีวิต เหตุเกิดที่ถนนหมู่ที่ 1 ต.อิปัน อ.พระแสง จ.สุราษฏร์ธานี ในช่วงกลางดึก คืนวันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
พ.ต.อ.วิชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป. กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจกองปราบลงพื้นที่สืบสวน รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ พบว่า ผู้ที่ลงมือก่อเหตุ มีด้วยกัน 3 คน ประกอบด้วย นายภานุพงศ์ หรือ ปอน อายุ 30 ปี นายทวีศักดิ์ หรือ หนึ่ง อายุ 35 ปี และนายเอกชัย จงราช หรือ "เอก มหาราช" อายุ 40 ปี ซึ่งหน้าที่เป็นมือปืน
จึงมีการรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมประสาน สภ.พระแสง ขออำนาจศาลจังหวัดเวียงสระ ออกหมายจับ ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ก่อนจะเปิดปฏิบัติการระดมกำลังตรวจค้นจนสามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 รายแรก นำตัวส่งสภ.พระแสง ดำเนินคดี ส่วนนายเอกชัย หลบหนีไปได้
ผู้ต้องหาทั้งสอง ให้การรับสารภาพว่า นายเอกชัย รับงานยิง อบต.ชู ผ่านคนกลางในราคา 3 แสนบาท จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหา มีนายภานุพงศ์ ขับรถเก๋งทำหน้าที่ชี้เป้าและคอยคุ้มกัน แล้วให้มือปืนนั่งรถกระบะมาพวก ขับมาวนเวียดูเป้าหมายหลายครั้งแต่ไม่สบโอกาส จนมาถึงกลางดึก คืนวันที่ 8 มกราคม จึงสบโอกาสก่อเหตุ
ทั้งนี้ จากการสืบสวน พบว่า สาเหตุการสั่งตายครั้งนี้ มาจากเรื่องชู้สาวเป็นหลัก ส่วนประเด็นรายละเอียดต่าง ๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนหาความเขื่อมโยงที่ชัดเจนต่อไป
สำหรับ "เอก มหาราช" มือปืนรายสำคัญ จากแดนใต้ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565 ได้ก่อเหตุยิงนายสุชาติ ขวัญเกลื่อน หรือไข่ อายุ 30 ปี เสียชีวิตที่ ริมถนนสายบ้านเสืออูม–กันหลา ต.สินปุน อ.พระแสง จ.สุราษฏร์ธานี โดยเป็นการว่าจ้างจากกลุ่มยาเสพติด ในราคา 3.5 หมื่นบาท
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ถูกตำรวจภาค 8 จับกุมดำเนินคดี สุดท้ายสู้จนหลุดคดี เคยถูกจับกุมดำเนินคดีถึง 11 คดี ทั้งคดีครอบครองยาเสพติด พ.ร.บ.อาวุธปืน ร่วมกันฆ่า และคดีฆ่า เป็นคนร้ายรายสำคัญของตำรวจภูธรภาค 8
