ความคืบหน้าภายหลังนางสาวนารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด มีคำสั่งฟ้อง นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว พร้อมพวก 41 คน จำนวน 9 ข้อหา อาทิ สมคบค้ายา-ฟอกเงิน-อั้งยี่ และได้มอบหมายให้สำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด นำคำฟ้อง จำนวน 332 หน้า ไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาส่งฟ้องต่อศาลภายในอายุความตามกฎหมาย นั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
20 มกราคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า จากนี้หากตำรวจพบว่า มีพยานหลักฐานเพิ่มเติมก็สามารถรวบรวมส่งให้กับคณะพนักงานสอบสวนของอัยการพิจารณาว่า จะเพิ่มเข้าไปในสำนวน ระหว่างที่แถลงต่อศาลหรือไม่
ส่วนผู้ต้องหารายอื่น ๆ นั้น ต้องให้คณะพนักงานสอบสวนพิจารณาและสั่งการให้ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติม หากพบว่า มีความผิดก็สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนของตำรวจนั้น ไม่มีอำนาจพิจารณาแล้วต้องส่งให้คณะทำงานสอบสวนของอัยการพิจารณา
สำหรับกรณี "พ.ต.อ. หญิง" ภรรยานายตู้ห่าว ซึ่งได้รับการปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขังนั้น ถือเป็นดุลพินิจของศาลในการพิจารณา เนื่องจากเห็นว่ามีอาชีพ มีที่อยู่อาศัยชัดเจน และไม่มีพฤติการณ์หลบหนี แต่หากพบว่าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทางคณะพนักงานสอบสวนก็มีสิทธิ์เพิกถอนประกันได้ รวมทั้งหากประชาชนท่านใดมีหลักฐานชัดเจนว่าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานก็สามารถนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวนพิจารณาได้
ส่วนกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉว่า ภรรยานายตู้ห่าว มีการซื้อพยานนั้น โฆษก ตร. ระบุว่า หากมีพยานหลักฐานชี้ชัดการกระทำดังกล่าว ก็ขอให้นำมายื่นได้ โดยพนักงานสอบสวนจะเสนอไปยังอัยการเพื่อสอบสวนต่อไป หากพบความเชื่อมโยงก็อาจจะมีการคัดค้านการประกันตัวต่อไป