svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

แจง 8 ปม “แปดเปื้อน” คดีตู้ห่าวท่ามกลางกระแสดิสเครดิต

13 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

แจงละเอียด 8 ปม “แปดเปื้อน” คดีตู้ห่าวท่ามกลางกระแสดิสเครดิต ยันทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย เผยมีหลักฐานชัดเครือข่ายดิสเครดิตพนักงานสอบสวน

คดี"ตู้ห่าว" มีข้อมูลแนวตรวจสอบการทำงานของฝั่งเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะตำรวจนครบาล และหน่วยข้างเคียงอื่นๆ ในแนวจับผิด จับพิรุธจากนายชูวิทย์ มาโดยตลอด แต่ที่ผ่านมาแทบไม่เคยมีคำชี้แจงใดๆ จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหน่วยงานหลักที่ทำคดีนี้ โดยเฉพาะจาก พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง  ผบช.น. 

 

แต่การแถลงสรุปสำนวนคดีตู้ห่าวในวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา  ผบช.น.เปิดข้อมูลหลายประเด็น แต่ไม่ใช่แนวโต้นายชูวิทย์ เพียงแต่เป็นการให้ข้อมูลอีกด้านแบบนุ่มนวล ไม่ชวนทะเลาะ 

 

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง  ผบช.น. 

“เนชั่นทีวี” ได้ข้อมูลเชิงลึกจากฝั่งนครบาล โดยเรียงลำดับดังนี้

1.ได้รับการประสานจากพนักงานอัยการว่าจะสั่งฟ้องคดีตู้ห่าวต่อศาล ภายในวันจันทร์ที่ 16 มกราคมนี้ 

2.พยานหลักฐานที่ตรวจสอบร่วมกันระหว่างฝ่ายตำรวจ และฝ่ายอัยการ เห็นตรงกันว่าหลักฐานแน่น เอาผิดนายตู้ห่าว และเครือข่ายได้แน่

3.ได้มีการแจ้งข้อหา “ฟอกเงิน” กับนายตู้ห่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ระยะหนึ่ง โดยเป็นการเข้าไปแจ้งข้อหาในเรือนจำ เพราะนายตู้ห่าวไม่ได้ประกัน 

ส่วนสาเหตุที่ไม่แจ้งตั้งแต่ตอนจับกุม เพราะต้องรอหลักฐานการตรวจสอบเส้นทางเงินที่ชัดเจนก่อน ป้องกันการถูกฟ้องกลับ และก่อความเสียหายให้กับภาคธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้อง ประกอบกับวิธีการสืบสวนเรื่องฟอกเงินจากยาเสพติด ต้องตรวจตามเส้นทางเงินเท่านั้น ไม่ใช่ยึดทรัพย์แบบหว่านมาไว้ก่อน เพราะจะก่อปัญหาตามมา และลดความน่าเชื่อถือในการดำเนินคดีในชั้นศาล 

4.ประเด็นกล่าวหาเรื่อง ผบช.น.จัดงานเลี้ยงให้อัยการ และอ้างว่ามีการตกลงกันทำสำนวนคดีให้อ่อน ไม่เป็นความจริง เพราะในวัน-เวลาที่มีการกล่าวหา ผบช.น.ติดราชการสำคัญ ไม่ได้ไปที่สำนักงานอัยการสูงสุด ส่วนการเลี้ยงอาหาร เป็นการเลี้ยงอาหารทีมงานตามปกติ ไม่ใช่งานฉลองปีใหม่ โดยมีหลักฐานภาพถ่ายยืนยันชัดเจน 

5.ประเด็นกล่าวหาว่า ผบช.น.ทำสำนวนคดีอ่อน โดยเทียบเคียงกับคดี “หลงจู๊ สมชาย” เปิดบ่อนการพนันในภาคตะวันออกนั้น ความจริงแล้ว ผบช.น.ในฐานะผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เป็นหน่วยที่นำกำลังไปจับกุม “หลงจู๊ สมชาย” แต่การทำสำนวนคดี มีการโอนสำนวนให้หน่วยอื่นนอกพื้นที่ภาค 2 ดำเนินการ ฉะนั้นการกล่าวโทษว่าคดี “หลงจู๊ สมชาย” ศาลยกฟ้องเพราะ ผบช.น. สมัยทำหน้าที่ ผบช.ภ.2 จึงไม่เป็นธรรม 

 

นายตู้ห่าว ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีทุนจีนสีเทา

และที่สำคัญ “คดีทัวร์ศูนย์เหรียญ” ในอดีตที่มีการฟ้องร้องบริษัทโอเอ ศาลยกฟ้องโดยเขียนในคำพิพากษาว่า โจทก์ (ตำรวจ) ไม่มีการสอบปากคำพยานที่เป็นนักท่องเที่ยวเพื่อยืนยันว่าถูกบังคับให้ซื้อสินค้าและบริการ (เดินทางมาด้วยทัวร์ราคาต่ำ แต่ถูกบังคับซื้อสินค้า) แม้แต่ปากเดียว  ทำให้ศาลจำเป็นต้องยกฟ้อง  ความผิดพลาดในคดีดังกล่าวนี้กลับไม่มีการย้อนพูดถึงว่าใครคือหัวหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งปัจจุบันยังตำแหน่งสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

6.หลังจากอัยการสั่งฟ้องคดีตู้ห่าวต่อศาล จะมีการขยายผลต่อเป็นคดี “ตู้ห่าวภาค 2” เชื่อมโยงกิจการอื่นของนายทุนจีนเทา กับเครือข่ายของตู้ห่าว ซี่งจะสาวไปถึงเครือข่ายใหญ่อีกล็อตหนึ่ง มีผู้เกี่ยวข้องมากมาย รวมถึงบุคคลในแวดวงการเมือง ซึ่งล่าสุดมีหลักฐานเส้นทางการโอนเงิน ผ่องถ่ายเงินชัดเจนแล้ว 

ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า เพราะเหตุนี้หรือไม่จึงมีความพยายามดิ้นจากหลายฝ่ายเพื่อให้เปลี่ยนตัว ผบช.น. 

7.ยืนยันว่า ผบ.ตร.ไม่หวั่นไหว และได้เห็นหลักฐานทั้งหมด จึงมั่นใจการทำงานของพนักงานสอบสวน ไม่มีแนวโน้มปลด ผบช.น. และข้อมูลสำคัญในทางคดีได้รายงานนายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใหญ่ในรัฐบาลทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด 

8.มีหลักฐานชัดเจนว่า เครือข่ายบุคคลที่ออกมาดิสเครดิตพนักงานสอบสวน มีพฤติการณ์ติดต่อนายตู้ห่าว และเครือข่ายมาก่อนที่จะเป็นข่าว โดยบุคคลใกล้ชิดนายตู้ห่าวมีหลักฐานการขู่กรรโชกทรัพย์ เป็นเงินหลักหลายสิบล้านบาท และเชื่อว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการแฉข้อมูลทำลายกัน โดยมีบางฝ่ายได้ประโยชน์ และรอรับผลหากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางคดี รวมถึงเปลี่ยนแปลงตัว ผบช.น. 

พนักงานสอบสวนยืนยันว่าจะไม่มีการเปิดประเด็นเรื่องกรรโชกทรัพย์ เนื่องจากตำรวจไม่ต้องการเป็นเครื่องมือของฝ่ายใด หากผู้เสียหายต้องการดำเนินคดี ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการแจ้งความ หรือยื่นฟ้องเอง ซึ่งต้องรอดูท่าทีต่อไป

logoline