svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

'ชูวิทย์'เปิดศึกแฉ มหากาพย์‘ทุนจีนสีเทา’ สะเทือนยุติธรรมไทย

การเข้าจับกุม "ผับจินหลิง" ที่บานปลายสู่มหากาพย์ "ทุนจีนสีเทา" มี "ชูวิทย์" เจ้าของฉายา "จอมแฉ"เป็นตัวละครสำคัญ เมื่อออกมาให้ข้อมูลระดับเอ็กซ์คลูซีพ ทั้งรายละเอียดคดี ความหละหลวมของเจ้าหน้าที่ สั่นคลอนความน่าเชื่อถือขบวนการยุติธรรมไทย

"ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย หรือหลายคนให้ฉายา 'จอมแฉ' ออกมาเคลื่อนเปิดศึกมหากาพย์เปิดโปง "ทุนจีนสีเทา" ก่อนการเข้าจับกุมผับจินหลิง

ย้อนไปเดือนก.ค. 65 "ชูวิทย์" ออกมาเปิดโปง "ทุนจีนสีเทา" โพสต์ในเฟซบุ๊ก ว่า ธุรกิจสีเทาในไทย ทั้งบ่อนการพนัน ผับ บาร์ ถูกคนจีนฮุบเกือบหมดแล้ว พร้อมระบุถึงผับใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ เปิดบริการถึงตี 4 หากตรวจยาเสพติดนักเที่ยวจะพบปัสสาวะสีม่วงเกิน 50% และยังระบุอักษรย่อ พิกัดผับด้วย 

หลังการเข้าจับกุม "ผับจินหลิง" ที่เป็น ผับลับชาวจีน เป็นผับรับเฉพาะคนจีน ลูกค้าระดับ VIP. เงินหมุนเวียนนับล้านต่อคืน มีการเสพและขายยาเสพติดอย่างโจ๋งครึ่ม เย้ยกฎหมายบ้านเมือง จึงสะท้อนว่าสิ่งที่ ชูวิทย์ พูดไว้เป็นจริง
การเข้าจับกุมผับจินหลิง
ยาเสพติดจำนวนมากในผับจินหลิง

  จาก "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" สู่ "ผับศูนย์เหรียญ"  

นายชูวิทย์ เปิดแผลแฉ "ผับจินหลิง" มีกลุ่มนายทุนธุรกิจชาวจีน มาเปิดสถานบันเทิงมั่วสุมยาเสพติดในประเทศไทย ว่า สถานบันเทิงลักษณะนี้จะรับลูกค้าที่เป็นคนจีนเท่านั้น มีการรับฝากยาเสพติดที่เสพไม่หมดไว้ได้ เหมือนกับฝากเหล้าในผับ ไม่ต้องเสี่ยงเจอด่านตรวจตำรวจ

อีกทั้งสถานบันเทิงดังกล่าวไม่ได้เป็นแค่เพียงผับ แต่ยังเปิดเป็นบ่อนการพนันด้วย!!

ที่สำคัญยังทุกอย่างนำเข้ามาจากประเทศจีน ทั้งสุรา บุหรี่ เฟอร์นิเจอร์  จ้างพนักงานคนจีนและแรงงานเพื่อนบ้านเป็นเด็กเสิร์ฟ สถานบันเทิงเหล่านี้จึงเรียกว่า “ผับศูนย์เหรียญ” เจ้าของเป็นคนจีน ทุกอย่างมาจากจีน เข้ามาทำธุรกิจสีเทาอย่างยิ่งใหญ่ในประเทศไทย
'ชูวิทย์'เปิดศึกแฉ มหากาพย์‘ทุนจีนสีเทา’ สะเทือนยุติธรรมไทย
นายชูวิทย์ ย้ำว่า กลุ่มนายทุนจีนเหล่านี้ จ่ายหนักให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ จึงเปิดธุรกิจสีเทาได้อย่างเต็มที่ ส่วนมากอยู่ในย่านรัชดาภิเษก, สุทธิสาร, ห้วยขวาง, พระราม 2 และพัทยา ขบวนการเหล่านี้ มี"เจ้าพ่อเมืองหลวง" ซึ่งเป็นนักการเมืองใหญ่ให้ความคุ้มครอง ที่ทำหน้าที่หาเงินสีเทา เพื่อเอาไปให้กลุ่มการเมือง เพื่อเป็นทุนในการใช้เลือกตั้งในครั้งต่อไป

นายชูวิทย์ ระบุกล่าวว่า มีข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการนายทุนจีนสีเทา และคนรับเงินผลประโยชน์ ที่ตำรวจต้องรู้ไว้เพื่อปราบปราม โดยนำข้อมูลให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ขอให้ช่วยปราบปรามอย่างจริงจัง  เพราะถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป จะเป็นการทำลายระบบเศรษฐกิจ ก่อปัญหาสังคมและก่อปัญหาอาชญากรรมแก่ประเทศชาติ
'ชูวิทย์'เปิดศึกแฉ มหากาพย์‘ทุนจีนสีเทา’ สะเทือนยุติธรรมไทย

  ชูวิทย์ ปะทะ สันธนะ คู่เดือด "ทุนจีนสีเทา"  
ขณะที่ "ชูวิทย์" เดินหน้าแฉหลักฐานผับลับชาวจีน โยงเครือข่าย "ทุนจีนสีเทา" นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล ออกมาเคลื่อนไหว ออกมาเปิดคลิปสถานบันเทิงในโรงแรมของชูวิทย์ กล่าวหา เปิดเกินเวลาและสงสัยว่าจะมีการมั่วสุมยาเสพติด

ชูวิทย์ สวนกลับทันที ชี้แจงว่า ไม่มีสถานบันเทิงในโรงแรม แต่เป็นพื้นที่เปิดจัดงานสังสรรค์ส่วนตัว คลิปที่นายสันธนะนำมา เป็นการจัดฉาก และประกาศถามดังๆว่า "สันธนะ รับงานใครมา" 

แรงปะทะของทั้งคู่ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งต่อมาเกิดศึกปะทะคารมอย่างดุเดือด จนหวิดวางมวย หน้าโรงพักทองหล่อเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 9 พ.ย. 2565 จากนั้นต่างฝ่ายต่าง จากศึกสาวไส้กันไปมา เข้าแจ้งความดำเนินคดีซึ่งกันและกัน กระทั่งถึงขั้นประกาศขอจองล้างจองผลาญกันในเวลาต่อมา 
'ชูวิทย์'เปิดศึกแฉ มหากาพย์‘ทุนจีนสีเทา’ สะเทือนยุติธรรมไทย   ปฏิบัติการแฉนักการเมือง-จนท.รัฐ เอื้อ"ตู้ห่าว"  
"ชูวิทย์" แจงว่า กลุ่มนักธุรกิจชาวจีนเครือข่าย "ทุนจีนสีเทา 5 เสือมาเฟีย" ประกอบไปด้วย กลุ่มเดวิด, กลุ่มฉางเฟ่ย, กลุ่มโทนี, กลุ่มหมิง และกลุ่มตู้ห่าว

ต่อมาเปิดปฏิบัติการแฉ เริ่มโจมตี "ตู้ห่าว" โดยช่วงกลางเดือนพ.ย.65 มอบเอกสารหลักฐานสำคัญให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ทั้งเรื่องเครือข่าย, เส้นทางการเงิน และเปิดโปงความสัมพันธ์ "ตู้ห่าว" กับผู้มีอำนาจในประเทศ นักการเมือง ซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสีย มีการรับสินบน และร่วมกันปกปิดการฟอกเงินของ "ตู้ห่าว"

แผลแรกของกลุ่มนักการเมืองคือ กรณี ตู้ห่าว ได้บริจาคเงินจำนวน 3 ล้านบาท ให้กับพรรคการเมืองไทย ทั้งที่ยังใช้พาสปอร์ตจีนอยู่ ร้องขอให้ กกต. ตรวจสอบเรื่องนี้ จนมีการตรวจสอบพบว่าคือ ‘พรรคพลังประชารัฐ’ !!

ต่อมา สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ออกมายอมรับว่าเป็นเรื่องจริง แต่ "ตู้ห่าว" บริจาคเงินให้ เพราะมีความศรัทธาในแนวทางของพรรคเท่านั้น ไม่ได้มีนัยสำคัญทางการเมืองใด ๆ
'ชูวิทย์'เปิดศึกแฉ มหากาพย์‘ทุนจีนสีเทา’ สะเทือนยุติธรรมไทย
  แฉฝูงบินเศรษฐี เอี่ยว"ทุนสีเทา"  
ชูวิทย์ เดินหน้าแฉขบวนการ "ทุนจีนสีเทา" ที่มี "ตู้ห่าว" เป็นตัวละครสำคัญ ระบุถึงเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว พร้อมเปิดเส้นทางการบินแบบผิดปกติที่มีนักการเมืองมาเกี่ยวข้อง 

ข้อมูลที่ถึงมือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของ ตู้ห่าว ว่า มีอิทธิพลสูงมาก มีความพัวพันไปถึงทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมือง โดยพบ "เครื่องบินเจ็ท" ส่วนตัวซื้อมาจากนักการเมืองใหญ่ จ.นครราชสีมา และมีเที่ยวบินที่นักการเมืองระดับบิ๊กเกี่ยวข้อง ชูวิทย์ให้คำนิยามเอาไว้ว่า "ฝูงบินเศรษฐี"
'ชูวิทย์'เปิดศึกแฉ มหากาพย์‘ทุนจีนสีเทา’ สะเทือนยุติธรรมไทย
ปกติแล้ว สถานที่จอดเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว จะมีอยู่แค่ 2 ที่ คือ ของบริษัทเอกชน Mjets และที่ AOT แต่เครื่องบินลำ กลับได้จอดอยู่ที่ศูนย์ฝึกการบินพลเรือน 604 หรือ Sunny 604 ผู้ที่จะสามารถจอดอยู่ที่นี่ได้ จะต้องเป็นสมาชิกเท่านั้น เมื่อตู้ห่าวไม่ได้เป็นสมาชิก จึงน่าสงสัยว่าใช้อิทธิพลของใคร 

สิ่งสำคัญจากข้อมูลเชื่อว่า “ตู้ห่าว” มีทรัพย์สินหลายพันล้านและกุมความลับของผู้มีอิทธิพล นักการเมืองจำนวนมาก ที่นำเงินหรือทรัพย์สินที่ได้จากการทุจริต มาให้ “ฟอกเงิน” โดยการลงทุนในธุรกิจผิดกฎหมาย หากนายตู้ห่าวถูกจับ ข้อมูลก็อาจจะถูกเปิดเผย และส่งผลกับผู้ที่มีส่วนได้เสียในครั้งนี้

การเปิดแผล "เครื่องบินเจ็ท" ของตู้ห่าว ส่งผลให้เวลาต่อมามีข้อมูลหลั่งไหลสะเทือนฝ่ายการเมืองอย่างยิ่ง ทั้งการลักลั่นประกาศอายัด หรือไม่อายัดเครื่องบิน ระหว่าง ตำรวจและปปส. เพื่อตรวจสอบขยายผล จนงงกันไปทั้งประเทศ หรือกระทั่งการพบชื่อของ "ธรรมนัส พรหมเผ่า" มีส่วนกับเที่ยวบินไปร้อยเอ็ด 
'ชูวิทย์'เปิดศึกแฉ มหากาพย์‘ทุนจีนสีเทา’ สะเทือนยุติธรรมไทย
  ฟาด"ผบช.น."ทำคดีไม่คืบ ผบ.ตร.สั่งปลด  
ปมเครื่องบินเจ็ท เริ่มพ่นพิษทำให้ ตำรวจและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่เว้นแม้แต่กระทรวงยุติธรรม อยู่นิ่งไม่ได้ ต้องขยายผลตรวจสอบทรัพย์สินต่างๆ พร้อมอายัดทรัพย์สินเครือข่าย "ตู้ห่าว" ซึ่ง "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ควบคุมคดี โดยมีพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ผู้นำทีมเข้าจับกุมผับจินหลิง เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน 

ชุดทำงานของ "บิ๊กโจ๊ก" ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่อศาลออกหมายจับ "ตู้ห่าว" หรือ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ ในฐานความผิด 3 ข้อหา ซึ่งล้วนเป็นข้อหาเกี่ยวข้องกับ "ยาเสพติด" ในส่วนของผับจินหลิง ท้องที่ สน.ยานนาวา จากนั้น ตู้ห่าว ได้เข้ามอบตัว แต่ในเวลาต่อมาก็ยังไม่มีการแจ้งข้อหา "ฟอกเงิน" แต่อย่างใด

"ชูวิทย์” ตั้งข้อสังเกตตำรวจไม่แจ้งข้อหาฟอกเงิน “ตู้ห่าว" และยังให้ผู้ที่เกี่ยวข้องบางรายเป็นพยาน จะเป็นการช่วยเหลือกันหรือไม่ ??

กระทั่งในเวลาต่อมาเมื่อไม่มีการแจ้งข้อหาฟอกเงิน การตรวจสอบหลักฐานคดีไม่คืบหน้า “ชูวิทย์” ได้เป่านกหวีด ชูใบแดงไล่ออก "ผบช.น." อัดมีพฤติกรรมช่วยเหลือคดี “ตู้ห่าว” พร้อมจี้ ผบ.ตร. เปลี่ยนตัวหัวหน้าพนักงานสอบสวน
'ชูวิทย์'เปิดศึกแฉ มหากาพย์‘ทุนจีนสีเทา’ สะเทือนยุติธรรมไทย
เมื่อถูกกดดันอย่างหนัก "ผบช.น." ออกมาแถลงเรื่องการตรวจสอบหลักฐานต่างๆที่ยึกมาจาก "ผัวจินหลัง" โดยเฉพาะรถหรูกว่า 30 คัน อยู่ในขั้นตอนอายัดของ ป.ป.ส. และเปิดรถตรวจสอบไม่ได้เพราะเป็นการตั้งรหัสพิเศษ ต้องรอผู้เชี่ยวชาญ หรือเจ้าของรถมาเปิด

แต่ในเวลาต่อมาชุดทำงานของ "บิ๊กโจ๊ก" เข้าตรวจสอบกลับเปิดได้ทันที และ ป.ป.ส. ยืนยันว่า แม้จะอยู่ในขั้นตอนอายัดของกลาง แต่ตำรวจสามารถเข้าตรวจสอบหลักฐานได้ตลอดเวลา

นั่นทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัย กระแสยิ่งตีกลับไปยัง ผบช.น. อย่างหนัก โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ปลายเดือนธันวาคม หลังคดียังไม่ไปถึงไหน ทำให้กังวลว่าเมื่อหมดระยะเวลาการฝากขัง "ตู้ห่าว" อาจจะส่งฟ้องไม่ทัน หรือหลักฐานอ่อน จนทำให้ "ตู้ห่าว" หลุดคดี 
 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง
ข้อมูลทางคดีที่ดูเหมือนไม่ไปไหน ขณะที่ "ชูวิทย์" เปิดหลักฐานทุนจีนสีเทาเป็นข่าวใหญ่รายวันอย่างต่อเนื่อง สั่นสะเทือนกระบวนการยุติธรรมไทย ทำให้คดีนี้เป็นคดีที่ต้องติดตามกันติดๆแบบข้ามปี

ในตอนหน้า "เนชั่นออนไลน์" จะนำเรื่องราวของ "ตู้ห่าว" ผู้ถือครองทรัพย์สินนับหมื่นล้าน รวมทั้งเครือข่ายต่างๆ มาให้ได้ติดตามกันต่อไป
 "ตู้ห่าว" ในวันที่ถูกจับกุม