svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

มือยิงคู่กรณีดับคาโรงพักเข้าคุก ศาลไม่ให้ประกัน เมียผู้ตายเชื่อเจตนาฆ่า

17 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศาลอาญาธนบุรี ไม่ให้ประกันตัว พ่อค้าพริกปืนโหด ซัลโวคู่กรณีดับคาโรงพักหลักสอง ชี้ก่อเหตุอุกอาจไม่กลัว กม. ขณะที่ครอบครัวหนุ่มเจ้าของอู่เข้ารับศพ ลั่นคู่กรณีเจตนาฆ่า ทำเกินกว่าเหตุ

17 ธันวาคม 2565 ความคืบหน้าเหตุระทึกขวัญกลาง สน.หลักสอง ที่พนักงานสอบสวน เรียกคู่กรณีคดีขับรถเฉี่ยวชน มาไกล่เกลี่ยกันบนห้องพนักงานสอบสวน แต่สุดท้ายเคลียร์กันไม่ลงตัว ชักอาวุธปืนยิงใส่กัน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 1 ราย ซึ่งภายหลังตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้นั้น 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

มือยิงคู่กรณีดับคาโรงพักเข้าคุก ศาลไม่ให้ประกัน เมียผู้ตายเชื่อเจตนาฆ่า

 

นายพีรสิน กุลชุติสิน อายุ 27 ปี พ่อค้าพริกปืนดุ
 

ล่าสุด ที่ศาลอาญาธนบุรี ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวน สน.หลักสอง นำตัว นายพีรสิน กุลชุติสิน อายุ 27 ปี พ่อค้าพริกปืนดุ ผู้ต้องหาที่ยิง นายคมสัน อินทร์ฤทธิ์ คู่กรณีเสียชีวิตบนโรงพักมาฝากขัง ระหว่างการสอบสวน มีกำหนด 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 17 - 28 ธ.ค. 65

โดยในชั้นสอบสวน แม้นายพีรสิน จะให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา แต่เนื่องจากความผิดมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะหลบหนี และภรรยาผู้เสียชีวิต ผู้เสียหายขอคัดค้าน เนื่องจากเกรงว่าไม่ได้รับความปลอดภัย จึงคัดค้านการให้ประกันตัว   

ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการฝากขังแล้ว ญาติของนายพีรสิน ผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวพร้อมยินยอมให้สวมใส่กำไล EM แต่ศาลอาญาธนบุรี พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา และพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ให้ยกคำร้อง จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้คุมตัวนายพีรสิน ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษธนบุรีต่อไป 


ตำรวจนำตัว นำตัว นายพีรสิน ไปฝากขัง

 

ตำรวจนำตัว นำตัว นายพีรสิน ไปฝากขัง
 

ส่วนที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช ครอบครัว นายคมสัน ผู้เสียชีวิต ได้ติดขอรับร่างเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา โดย น.ส.ปภาดา นิสสัยสุข อายุ 32 ปี ภรรยา นายคมสัน กล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น สาเหตุเพียงแค่การทะเลาะกันบนถนน แต่กลับกลายมาเป็นความสูญเสียถึงชีวิต

จุดเริ่มต้น วันที่ 27 ก.ย. 65 คู่กรณีต้องการจะยูเทริ์น แต่เขาไม่ได้ต่อแถวเข้าคิว แฟนตนซึ่งขับรถมาในทางตรงจึงไม่ให้ทาง สร้างความไม่พอใจ เมื่อคู่กรณียูเทิร์นกลับมาได้ ก็ขับตามรถตนมาพร้อมเปิดไฟสูง จากนั้นคู่กรณีขับรถออกเลนซ้ายเพื่อแซงขึ้นไปข้างหน้า ในจังหวะนั้นสามีตนก็โมโห จึงมีการขับรถปาดกันไปกันมา 

จากนั้นสามีหยิบขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ขว้างออกไปที่รถของคู่กรณีเพื่อให้คู่กรณีจอด พูดคุยเจรจากัน ซึ่งคู่กรณีก็หยุด มีรถของสามีจอดขนาบข้าง ขณะที่คู่กรณีลดกระจกลงมาพร้อมกับการถ่ายคลิป แล้วจากนั้นก็มีการตอบโต้เถียง ด่าทอ ขว้างปาข้าวของกันไปมา จนโดนหน้าสามีตน ยิ่งทำให้สามีโมโห ก่อนเข้าชกต่อยกัน "ไม่คิดว่าจะเป็นคดี เพราะคิดว่าเป็นการทะเลาะกันระหว่างลูกผู้ชาย" 

จากนั้น หลานชายของตน ได้ลงไปห้าม ไม่ได้ลงไปรุมทำร้ายตามที่คู่กรณีกล่าวอ้าง จากนั้น ทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไป ซึ่งในระหว่างนั้นมีพยาน (น้อง พนักงานเคอร์รี่ เดลิเวอร์รี่) เห็นว่า คู่กรณีมีปืน ส่วนเรื่องการใช้สนับมือนั้น ตนยืนยันว่าไม่มี ถ้ามีจริงแผลที่ใบหน้าของคู่กรณี คงไม่ใช่แค่รอยฟกช้ำ

 

ครอบครัว นายคมสัน ผู้เสียชีวิต รับร่างไปประกอบพิธีศาสนา


น.ส.ปภาดา ยังเล่าถึงเรื่องที่มีการเจรจาบน สน.หลักสอง ก่อนหน้านี้ ตนและคู่กรณีไม่เคยมีการเจรจากันมาก่อน วันที่เกิดเหตุ ถือเป็นการนัดเจรจากันครั้งแรก คู่กรณีเรียกเงิน 9 ล้านบาท ซึ่งตนเป็นแม่บ้าน หาเช้ากินค่ำจะหาเงินที่ไหนมาจ่ายในจำนวนมากมายขนาดนั้น ทั้งๆ ที่ เหตุการณ์ตอนนั้นไม่ได้รุนแรง แต่เมียของคู่กรณีกลับพูดว่า "ไม่คิดจะขอโทษบ้างหรอ" สามีตนที่นั่งหันหน้าไปทางพนักงานสอบสวน จึงเอี้ยวตัวไปขอโทษคู่กรณีที่ยื่นอยู่ด้านหลัง ด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่ได้ตะคอก หรือเสียงดังรุนแรงตามที่คู่กรณีอ้าง 

ด้วยความเข้าใจผิดนี้เอง ที่อาจเป็นฉนวนเหตุให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ ไปเอาปืนมายิงสามี พร้อมความน่าสงสัยหลายประการ ทั้งที่ว่า คู่กรณีจงใจก่อเหตุหรือไม่ เพราะมีการพกปืนมาด้วย หรือลักษณะการจอดรถ หันหน้าตรงไปหน้าประตู สน.พอดี ทำให้เมื่อลั่นกระสุนไปแล้ว ทั้งคู่ก็วิ่งไปขึ้นรถแล้วหลบหนีไปได้ทันที 
มีคนสังเกตุเห็นว่า ภรรยาผู้ก่อเหตุมีการใส่เอียร์ปัก ที่คนซ้อมยิงปืนมักจะใส่กันที่หู จึงเป็นข้อสังเกตุที่ว่า ถ้าไม่ได้เตรียมการ หรือมีส่วนรู้เห็นจะมีการใส่เอียร์ปั๊กมาเพื่ออะไร

หลังเหตุการณ์ยิงสามีบนโรงพัก ทำให้ตนมองว่า เหตุที่เกิดขึ้นมันรุนแรงเกินไป จากเหตุทะเลาะวิวาท กลายมาเป็นเหตุยิงกันตาย แถม ๆ ไม่ได้ยิงนัดเดียว ยิงจนหมดแม็กบนพื้นที่ของโรงพัก ซึ่งเป็นสถานที่ที่พึ่งพาของประชาชน แต่กลับถูกยิงตายบนโรงพัก หากตอนนั้น ตำรวจระงับเหตุอย่างทันท่วงที สามีคงไม่ตาย หลังจากนี้ อาจมีการดำเนินคดีกับตำรวจ ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาเกิดเหตุด้วย 

ตนอยากถามคนก่อเหตุว่า จิตใจทำด้วยอะไร ตอนที่ยิง  ตนและลูกก็นั่งอยู่ตรงนั้น ลูกเห็นพ่อเขาถูกยิง ล้มลงไปต่อหน้าต่อตา ส่วนสามีอยากบอกว่า ให้กลับไปอยู่บ้านด้วยกัน ตนและลูกรออยู่
 


ด้าน นางนุชนารถ พุทธคุณ อายุ 58 ปี แม่ผู้เสียชีวิต ระบุ จากนี้ ไม่มีเสาหลักดูแลครอบครัว ก็คงลำบาก เสียใจมากที่ลูกต้องมาเสียชีวิต ลูกชายเป็นคนดี เป็นที่รักของเพื่อนและครอบครัว ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแวงกับใคร ส่วนเรื่องการขับรถ ก็เป็นคนขับรถใจเย็นและมีมารยาท บางครั้งลูกชายยังก้มหัวขอบคุณสำหรับคนที่ให้ทาง วันที่เกิดเหตุเชื่อว่า หากไม่ถูกกระทำก่อนลูกชายคงไม่ลงไปทำร้ายคู่กรณี 

เมื่อถูกตำรวจเรียกเข้าไปเจรจากับคู่กรณี ก็ไปทุกครั้ง แต่กลับถูกฝ่ายคู่กรณีเลื่อนนัด หากจะมองว่า ลูกแม่เป็นคนหัวร้อน ก็คงทำร้ายคู่กรณีไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่สิ่งที่ลูกชายถูกกระทำมันเกินไป ขอให้ผู้ก่อเหตุให้ได้รับโทษประหาร นอกจากนี้ ครอบครัวของคู่กรณียังติดต่อมาพูดคุยว่า หากจะให้ชดใช้ค่าเสียหายที่ยิงลูกชาย จะต้องให้ฝั่งตนชดใช้ค่าเสียหายกรณีรถชน และทำร้ายร่างกายผู้ก่อเหตุก่อน 



มือยิงคู่กรณีดับคาโรงพักเข้าคุก ศาลไม่ให้ประกัน เมียผู้ตายเชื่อเจตนาฆ่า
 

logoline