24 พฤศจิกายน 2565 จากกรณีตำรวจบุกทลายแหล่งมั่วสุมชาวจีน ที่ "อาคารจินหลิง" ที่เปิดลักษณะผับหรู หรือ "จินหลิงผับ" พบยาเสพติดจำนวนมาก พร้อมรถหรูหลายคัน อาทิ เบนท์ลีย์ ป้ายแดง ก่อนมีการขยายผลและถูกแฉถึงกลุ่มคนจีน ที่เข้ามาในประเทศไทยและทำธุรกิจ คาดใช้เป็นแหล่งฟอกเงิน "ทุนจีนสีเทา" จนกระทั่งล่าสุดมีการเด้ง รอง ผบก.น.6 ปมพัวการคืนรถหรูที่ยึดจาก "จินหลิงผับ" เร่งขยายผลหาผู้เกี่ยวข้อง ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ตั้ง "ผบช.น." คุมคดี รอง ผบก.ภ.6 คืนรถหรู แลกรับ 8 ล้าน
ล่าสุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ได้เซ็นคำสั่งแต่งตั้งให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสวนข้อเท็จจริงโดยมี พล.ต.อ.สุเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำกับดูแล กรณีรองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เข้าไปเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือนายตู้ห่าว นายทุนจีนสีเทา และปล่อยรถหรูจำนวน 4 คัน แลกกับเงิน 8 ล้านบาท
“ยืนยันว่าหากพยานหลักฐานไปถึงใครก็จะต้องมีการดำเนินคดีทั้งหมด เบื้องต้นยอมรับว่ากรณีดังกล่าว หากไม่มีมูลก็แจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีไม่ได้อยู่แล้ว แต่หากมีการแจ้งข้อกล่าวก็แสดงว่ามีมูลอยู่ ส่วนรายละเอียดไม่อยากก้าวล่วงให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน ส่วนจะมีระดับใหญ่กว่า รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 หรือไม่ที่เรียกรับเงิน 8 ล้าน ก็ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน จะไปพูดถึงหรือพาดพิงใครไม่ได้ ตอนนี้พยานหลักฐานถึง ตู้ห่าว เราก็ดำเนินคดีขอออกหมายจับ ไปแล้ว”
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวถึงภาพลักษณ์ของตำรวจที่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดและเกี่ยวข้องในคดีนี้ว่า อยู่ที่มุมมองโดยยืนยันว่าตอนนี้ตั้งใจทำอย่างตรงไปตรงมาใครผิดก็ว่าไปตามผิด ถ้ามองในแง่ดีก็คือเหมือนเป็นการเก็บกวาดบ้านทำให้ภาพลักษณ์ดีขึ้น อยากให้มองในมุมมองนี้ ตอนนี้การทำงานทำด้วยความตรงไปตรงมา พยานหลักฐานถึงใครก็ว่าไปตามนั้น
ทีมอาชญากรรม สำนักข่าวเนชั่น