svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"สันธนะ" แฉพฤติกรรมคู่กรณี สร้างกระแสหวังปิดเกม ยืนยัน ไม่เคยรีดไถ

12 พฤศจิกายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"สันธนะ" ลั่น กระแสทำอะไรไม่ได้ มีแต่กระสุนเท่านั้น ที่จะลำลายตนเองได้ เรียกร้องตรวจสอบการทำธุรกิจ "ชูวิทย์" ท้า หากไม่มีหมายจับเอี่ยว "ทุนจีนสีเทา" ให้คนพาดพิงมากราบขอขมา

12 พฤศจิกายน 2565 ช่วงเย็นที่ผ่าน นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล แถลงชี้แจงประเด็นร้อนกับหลายคน โดยเฉพาะนายชูวิทย์ กมลวิศิษย์ ซึ่งนายสันธนะใช้นามว่า "ลุงขิง" ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั้ง 2 คนกำลังมีปัญหากัน แต่ขณะนี้มีผู้มาผสมโรงหลายคน หนึ่งในนั้นเรียกว่า "นายหวยคนหนึ่ง" คิดจะมีปัญหากับตน ต้องการจะปิดบัญชี จึงสร้างกระแสเพื่อทำลายตนเอง โดยอ้างว่ามีหลักฐานสำคัญที่จะเอาผิดตนเอง ขอยืนยันว่า กระแสทำอะไรสันธนะ ไม่ได้ มีแต่กระสุนเท่านั้น ที่จะลำลายตนเองได้ 

\"สันธนะ\" แฉพฤติกรรมคู่กรณี สร้างกระแสหวังปิดเกม ยืนยัน ไม่เคยรีดไถ

สันธนะ แฉ เสรีพิสุทธิ์ เคยชวนไปพูดคุยที่พรรค

จากนั้นนายสันธนะ ก็เริ่มแฉพฤติกรรมของแต่ละคนที่ออกมาให้ข่าวก่อนหน้านี้ โดยเริ่มจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีต ผบ.ตร. ที่ออกมาระบุว่า ไม่เคยรู้จักกับตน และกล่าวหาว่าตนเป็นโจร ซึ่งไม่เป็นความจริง ตนและเสรีพิศุทธิ์รู้จักกันมาก่อน และเคยถูกเชิญไปที่ทำการพรรค เพื่อพูดคุยกันอยู่หลายชั่วโมง ซึ่งมีพยานคือลูกน้องทั้ง 2 ฝ่าย เพียงแค่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน  ซึ่งหากว่าตนเป็นโจรจริง ๆ ทำไมถึงเชิญโจรไปที่พรรค แล้วไม่เรียกตำรวจมาจับ อีกทั้งประวัติตนเอง ก็ไม่เคยติดคุก

สันธนะ เรียกร้องตรวจสอบการทำธุรกิจ ชูวิทย์ 

จากนั้นต่อด้วยนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ หรือที่เรียกว่า "ลุงขิง" ขอเรียกร้องให้มีหน่วยงานมาตรวจสอบรายได้ และการจ่ายภาษี ที่ได้จากการขายกิจการอาบอบนวด มูลค่า 4 พันล้านบาท ว่าได้จ่ายภาษีหรือไม่ หรือถ้าบริสุทธิ์ใจ เซ็นมอบอำนาจมาให้ตนเองตรวจสอบก็ได้ ซึ่งเอกสารสำคัญของการซื้อขายธุรกิจของนายชูวิทย์ ทั้งหมด ตนได้มาจากชายคนหนึ่ง ชื่อ "โกลัก" ชื่อนี้นายชูวิทย์ คงรู้จักดี

การที่นายชูวิทย์ มีปัญหากับตน หลังจากที่ตนออกมาแฉเรื่องการใช้ยาเสพติด ในผับและโรงแรมของลูกชายนายชูวิทย์ ช่วงค่ำ ลูกชายนายชูวิทย์ โทรมาหาตน แต่ไม่ได้รับสาย ซึ่งถ้าไม่มีพิรุธอะไร ทำไมถึงต้องโทรมาหา 

สันธนะ ยัน ไม่เคยรีดไถเงิน

ส่วนเหตุการณ์ที่ สน.ทองหล่อ วันนั้นที่มีการท้าต่อยกัน และอ้างว่าไม่รู้จักกันตน อยากถามกลับว่า แล้วก่อนหน้านี้ ใครที่มาเชิญไปนั่งเล่นที่บ้านทรงไทย ซอยสุขุมวิท 10 แล้วที่มีการยกนิ้วโป้งให้ แล้วพูดว่าเยี่ยม ก็เป็นการชม เหมือนในอดีต ก็เคยทำเช่นนี้มาก่อน โดยนายสันธนะ ยังนำภาพถ่ายที่เคยถ่ายรูปร่วมกัน มาให้สื่อมวลชนได้ดู

สำหรับกรณีที่ นายชูวิทย์ นำคลิปที่ตนเองร้องไห้มาลงเฟซบุ๊ก เป็นช่วงที่ตำรวจนำหมายจับ 8 หมาย มาแสดงจับกุม ในช่วงนี้เป็นคดีตลาดใหม่ดอนเมือง ตนได้เข้าไปกราบพ่อและแม่ ก่อนมอบตัวกับตำรวจ จึงเกิดความซาบซึ้ง น้ำตาเลยไหลออกมา เพราะรู้ว่าอาจจะเป็นการลาครั้งสุดท้าย เมื่อถูกจับกุมแล้วก็ยากที่จะออกมา
 

ตอนที่เป็นตำรวจแล้วมีการกล่าวอ้างว่า ตนเองรีดไถเงิน ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะถ้าพูดว่า ตนเองรีดไถต้องมีผู้เสียหาย ซึ่งที่ผ่านมาเวลาตนเองไปเที่ยว ให้ทิปมากกว่าเงินเดือนด้วยซ้ำ และที่ผ่านมานักธุรกิจก็มาขอให้เป็นที่ปรึกษา ตนเองก็เป็นให้ มาช่วยให้แก้ปัญหาก็ช่วยเหลือกัน แต่ไม่เคยเรียกขอรับเงิน

สันธนะ ถาม เจ้าของหวยออนไลน์ชื่อดัง รวยจริงหรือไม่?

นายสันธนะ ยังได้แถลงถึงบุคคลที่ 3 ที่เข้ามาผสมโรง คือนักธุรกิจค้าสลากออนไลน์ชื่อดัง ขอใช้ชื่อว่า "นายขายหวย" จริง ๆ แล้ว ไม่ได้รวยเหมือนที่สื่อทราบ แต่เงินที่นำมาตั้งโชว์ และรถหรูที่สื่อเห็น ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหน เพราะธุรกิจเพียงเท่านี้ จะมีเงินมหาศาลได้อย่างไร และยังพบว่าลูกพี่ของนายขายหวย 2 คน ถูกหมายจับคดีฟอกเงินและยาเสพติด เมื่อวันที่ 9 กันยายน ปีนี้ด้วย

ส่วนรถหรูของนายขายหวย พบว่าเคยถูกเอาไปจำนำ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ปี 2564 และยังมีการตรวจสอบปนะวัติย้อนหลัง พบว่าสภาพบ้านของนายขายหวยก่อนจะมาประกอบธุรกิจ เป็นเพียงร้านของชำธรรมดา จึงไม่รู้ว่ารวยจริงหรือไม่

\"สันธนะ\" แฉพฤติกรรมคู่กรณี สร้างกระแสหวังปิดเกม ยืนยัน ไม่เคยรีดไถ

เผย นายทุนจีนสีเทาถูกกลั่นแกล้ง เตรียมเข้าพบ 3 ป.

นายสันธนะ ยังพูดถึงกรณีเรื่อง "นายทุนจีนสีเทา" ที่ตนเข้าไปช่วยเหลือ ยืนยันว่านักธุกิจรายนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ถูกกลั่นแกล้ง ทั้งนี้ตนเองไม่ไว้วางใจอำนาจรัฐ และอดทนมาตลอด 8 ปี ที่ผ่านมา และที่ผ่านมาที่ตนเองเคยมีหมายจับ ก็มีตำรวจยศนายพลอ้างว่านายกสั่ง ตนเองจึงต้องไปถามพี่ ๆ 3ป. ว่าไม่พอใจตนเองเรื่องไหน อย่างไร

ตั้งใจว่าสัปดาห์จะเข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี, พลเอกประวิตร วงษ์สุรรณ รองนายกรัฐมนตรี, พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะมีการทำเอกสารเพื่อขอพบก่อน เนื่องจากพบว่าธุรกิจสีเทาของกลุ่มคนจีนที่จับกุมนั้น มีปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และอยากจะสอบถามด้วยว่า ทำไมถึงพึ่งเข้าจับกุมทั้งที่เปิดดำเนินธุรกิจมานานแล้ว


ท้าหากไม่มีหมายจับ "สันธนะ" เอี่ยวทุนจีน ให้คนพาดพิงมากราบ

นายสันธนะ ยังพูดท้าทายด้วยว่า กรณีที่ตำรวจบอกภายในสัปดาห์หน้าจะมีหมายจับใหญ่ เกี่ยวกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนายทุนจีน  ตนขอท้าว่าหากหมายจับมีชื่อนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อยู่จริง ก็พร้อมถูกดำเนินคดี แต่หากไม่มี ก็ขอให้บุคคลที่กล่าวหาตนเอง มากราบขอขมา และจะต้องเว้นระยะห่าง เข้ามาด้วยความนอบน้อมด้วย

ส่วนในวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน ที่จะถึง เวลา 10.00 น. จะขอเข้าพบ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อนำหลักฐานเอกสารเกี่ยวข้องกับนายทุนจีน และคนที่มากล่าวหาตน เข้าหารือเพื่อยืนยันว่าตนเองมีหลักฐานด้วย จากนั้นก็ตั้งใจอีกว่าจะเข้าพบนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ด้วยเช่นกัน

logoline