วันที่ 20 กันยายน 2565 นายเสข วรรณเมธี เอกอัครราชทูตไทยประจำ กรุงบรัสเซลส์ ได้นำคณะผู้แทนจากรัฐบาลไทย ประกอบด้วยผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบ น.ส. Charlina Vitcheva ปลัดกระทรวงกิจการทางทะเลและประมง คณะกรรมาธิการยุโรป (Director-General of the Directorate General for Maritime Affairs and Fisheries: DG MARE) และคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการต่อต้านการทำประมง IUU เพื่อหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ในประเทศไทย (IUU Fishing) ที่ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยี่ยม
คณะผู้แทนฝ่ายไทย ได้สรุปผลงานภาพรวมของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย เช่น การดำเนินคดีกับเรือประมงปลอมสัญชาติที่ลักลอบเข้ามาทำประมงผิดกฎหมายในราชอาณาจักร การพิสูจน์ทราบกรณีแรงงานบนเรือประมงตกน้ำ การติดตามเรือประมงที่ปิดสัญญาณ VMS การดำเนินคดีกับเรือประมงที่ลักลอบทำประมงในเขตพื้นที่ตามมาตรการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ การดำเนินคดีกรณีการปลอมแปลงหนังสือคนประจำเรือ การลักลอบขนถ่ายน้ำมันเขียวของเรือประมงที่ไม่ได้รับอนุญาตจากศุลกากร และการดำเนินคดีกับเรือประมงที่มีการดัดแปลงเครื่องมือประมงโดยผิดกฎหมาย เป็นต้น
รวมทั้งได้รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินคดีอื่นๆ ที่ทางสหภาพยุโรปให้ความสนใจ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้แทนจากสหภาพยุโรปได้ทราบถึงการยกระดับการทำงานในการขจัดปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังของประเทศไทย
จากการนำเสนอผลงานดังกล่าว ผู้แทนจากสหภาพยุโรปได้ให้ความสนใจและซักถามรายละเอียดเกี่ยวกับ การดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนในการเอื้อประโยชน์ในการกระทำความผิดในการทำประมง การตั้งคณะทำงานในการตรวจสอบการเข้าออกของเรือประมง การบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำประมงผิดกฎหมาย การดำเนินการสืบสวนคดีต่างๆ ของไทยที่ได้ดำเนินการครบทุกมิติ เช่น การดำเนินการทางคดี การขยายผลไปสู่ผู้ร่วมขบวนการและเจ้าหน้าที่รัฐ การดำเนินคดีฐานฟอกเงิน เป็นต้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้ทางสหภาพยุโรปมีความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ประเทศไทยยกระดับการบังคับใช้กฎหมายจากการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย เพื่อตัดวงจรมิให้นำไปสู่อาชญากรรมด้านการประมง (Fisheries Crime) ซึ่งถือเป็นการทำงานในมาตรฐานระดับโลก
ทั้งนี้ สหภาพยุโรป มีความตั้งใจอยากจะเปลี่ยนสถานะปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายของไทยเป็น ธงเขียว และพร้อมที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นผู้นำกลุ่มประเทศอาเซียน ในการปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing)
นอกจากนี้ ผู้แทนของสหภาพยุโรป ได้ให้ข้อแนะนำเพิ่มเติมจากการหารือครั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายของประเทศไทย มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยแนะนำให้มีการประสานงานความร่วมมือกันทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบให้มากยิ่งขึ้น สร้างความเข้าใจในการบังคับใช้กฎหมายให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายของประเทศไทยในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ในเดือนตุลาคม 2565 ที่จะถึงนี้ คณะกรรมาธิการยุโรป ได้เตรียมการที่จะมาตรวจสอบการทำประมงของไทย เพื่อสังเกตการณ์การดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ของประเทศไทยในภาพรวม เพื่อพิจารณาการทำธุรกิจส่งออกสินค้าภาคประมงของไทยในระยะต่อไป