svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ยังไม่แจ้งข้อหา “จ่าคลั่ง” ให้การสับสน ไม่เป็นประโยชน์ รอผลแพทย์ประเมิน

15 กันยายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คุมตัว “จ่าคลั่ง” สอบสวนยังให้การสับสน ตร.ประสานแพทย์เจ้าของไข้ขอข้อมูลหลังครอบครัวนำเอกสารรักษาตัวระบบประสาท ปี 2559 ประกอบสำนวน เบื้องต้นสอบพยาน 10ปาก ยังไม่แจ้งข้อหา ร

ภายหลังตำรวจเข้าจับกุม จ่าสิบเอก ยงยุทธ มังกรกิม เสมียน วิทยาลัยการทัพบก ใช้อาวุธปืนยิงเพื่อนร่วมงานเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่สน.ดุสิต ตามที่ได้เสนอข่าวมาแล้วนั้น (อ่านข่าว)

 

 

ล่าสุด (15 ก.ย.65) บรรยากาศช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยังปิดกั้นไม่ให้สื่อมวลชนข้ามแนวสะพานข้ามคลองไปภายในพื้นที่ สน.ดุสิต จากการสังเกตุการณ์บริเวณฝั่งตรงข้ามพบว่า ตำรวจได้ควบคุมตัวจ่าสิบเอกยงยุทธ ออกจากห้องขังลงมาขึ้นรถคุมขังและมีการขับออกจากสน. ไปก่อนที่จะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงมีการวนรถกลับมาและคุมตัวจ่าสิบเอกยงยุทธกลับเข้าสู่ห้องขังตามปกติ โดยไม่มีการเปิดเผยข้อมูลใดๆทั้งสิ้น

 

ยังไม่แจ้งข้อหา “จ่าคลั่ง” ให้การสับสน ไม่เป็นประโยชน์  รอผลแพทย์ประเมิน

ด้านพ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์  ผกก.สน.ดุสิต เปิดเผยว่า ในวันนี้ยังไม่มีกำหนดนำตัวส่งฝากขังศาลทหารแต่อย่างใด ส่วนที่มีการคุมตัวออกไปจากสน.เมื่อช่วงเช้านั้น ยังไม่ทราบรายละเอียดจากพนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างรอรายงาน

 

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าที่ สน. ดุสิต ได้เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าขณะนี้ตัวผู้ต้องหายังคงให้การสับสน ยังไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ทำให้การสอบสวนขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า แต่ทราบว่าทางครอบครัวผู้ก่อเหตุมีการนำเอกสารการรักษาตัวของผู้ต้องหาเกี่ยวกับระบบประสาท เมื่อปี 2559 เข้ามายื่นให้พนักงานสอบสวน ประกอบสำนวน

 

“พนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างการประสานแพทย์เจ้าของไข้ผู้ก่อเหตุเพื่อจะดำเนินการขอข้อมูลและส่งตัวผู้ต้องหาตรวจสอบอีกครั้ง ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรอการตอบกลับ ซึ่งพนักงานสอบสวนมีเวลาในการดำเนินการ ภายใน 48 ชั่วโมงหากครบกำหนดระยะเวลาจะต้องคุมตัวส่งฝากขังต่อศาลทหาร”

 

ยังไม่แจ้งข้อหา “จ่าคลั่ง” ให้การสับสน ไม่เป็นประโยชน์  รอผลแพทย์ประเมิน

พ.ต.อ.กฤษณะระบุอีกว่า สำหรับความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้มีการสอบปากคำพยานในคดีนี้ไปแล้ว 10 ปาก ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆเพราะผู้ต้องหายังไม่อยู่ในสภาพที่จะแจ้งข้อหาได้ แต่จากพฤติกรรมที่ผู้ต้องหาก่อเหตุ ก็เข้าข่ายความผิดหลักๆ 4 ข้อคือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พยายามฆ่าผู้อื่น ,พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนในเมือง หรือ ทางสาธารณะ

 

“เบื้องต้นจะต้องรอการประเมินอาการทางประสาทจากแพทย์ผู้รักษาก่อน ส่วนที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีการคุมตัวผู้ต้องหาออกไปและกลับเข้ามา ยังไม่ได้รับรายงานจึงไม่ทราบว่าพนักงานสอบสวน มีการคุมตัวออกไปทำอะไรบ้าง”

 

นอกจากนี้ พ.ต.อ.กฤษณะ ยังกล่าวถึงยุทธวิธีที่ตำรวจใช้ในการเข้าเจรจาและระงับเหตุเมื่อวานนี้ ถือเป็นยุทธวิธีปกติ ที่ตำรวจต้องสามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ ให้ได้ เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน เช่นการประเมินผู้ก่อเหตุ และการปิดกั้นถนนโดยรอบจุดเกิดเหตุ และเริ่มเข้าเจรจา

 

ยังไม่แจ้งข้อหา “จ่าคลั่ง” ให้การสับสน ไม่เป็นประโยชน์  รอผลแพทย์ประเมิน

logoline