svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ผบ.ตร.ตรวจฝึกซ้อมระงับเหตุช่างกลตีกัน

07 กันยายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผบ.ตร.ตรวจการฝึกระงับเหตุ นักเรียนตีกัน ใช้มาตรการจากเบาไปหนัก เจ้าหน้าที่ปลอดภัย-เสียหายน้อย พบหน่วยอรินทราช 26 เป็นครูฝึกยกระดับเพิ่มประสิทธิภาพ ด้านผกก.โรงพักปทุมวัน สั่งเฝ้าระวังจุดเสี่ยง ประสานภาคประชาชนช่วยสอดส่อง

วันที่ 7 กันยายน 2565 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เดินทางมาตรวจความพร้อมดูการฝึกซ้อมเผชิญเหตุ นักเรียนอาชีวะยกพวกตีกัน ที่หน้าอาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา โดยมีพล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สรเสริญ ใช้สถิตย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน กำลังตำรวจ สน.ปทุมวัน และหน่วยอรินทราช 26 เข้าร่วมด้วย

 

พ.ต.อ.พันษา กล่าวว่า ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้กำชับและเน้นย้ำถึงขั้นตอนการปฏิบัติหน้าที่ในการเข้าควบคุมสถานการณ์เหตุนักเรียนทะเลาะวิวาทว่า หลังจากได้รับแจ้งแล้วเจ้าหน้าที่ต้องเข้าพื้นที่ให้เร็วที่สุด เมื่อถึงแล้วทางเจ้าหน้าที่สายตรวจต้องประเมินสถานการณ์ในภาพรวม 

ผบ.ตร.ตรวจฝึกซ้อมระงับเหตุช่างกลตีกัน

จากนั้นก็รายงานเหตุโดยใช้กำลังตำรวจทุกส่วนในโรงพักมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด รวมถึงอุปกรณ์ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ไว้ ก็ควรนำมาใช้ ทั้งดิ้ว กระสุนยาง แก๊สน้ำตา หรือ เครื่องพันธนาการต่างๆ อีกทั้งตำรวจที่ไปจุดเกิดเหตุยังต้องมีแผนการรับมือที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับตัวเจ้าหน้าที่ เกิดความรุนแรงหรือผลกระทบน้อยที่สุด และควรหมั่นฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มีทักษะในการใช้อุปกรณ์สำหรับเผชิญเหตุ

พ.ต.อ.พันษา กล่าวอีกว่า ตามหลักขั้นตอนการใช้กำลังของตำรวจ จะเรียงจากเบาไปหาหนัก คือ ขั้นตอนที่หนึ่ง การปรากฎตัว แสดงตัวให้เห็น ขั้นตอนที่สอง สั่งให้หยุดการกระทำ โดยใช้คำสั่ง ขั้นตอนที่สาม ใช้นกหวีดหรืออุปกรณ์ในการช่วยระงับเหตุอย่างเบา ระดับที่สี่ คือ อุปกรณ์กระสุนยาง ดิ้ว หรือ ลูกขว้างแก๊สน้ำตา ที่ไม่ทำให้ถึงชีวิต 

ผบ.ตร.ตรวจฝึกซ้อมระงับเหตุช่างกลตีกัน

ผบ.ตร.ตรวจฝึกซ้อมระงับเหตุช่างกลตีกัน

หากการใช้ขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ในช่วงแรก ผู้ก่อเหตุบางส่วนหลบหนี ก็จะมีการแจ้งกำลังสกัดจับ แต่หากใครที่ยังไม่เชื่อฟังก็ต้องเข้าจับกุมดำเนินคดี และพาคนเจ็บส่งโรงพยาบาล โดยทาง ผบ.ตร.เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทุกคน และต้องให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด

 

สำหรับมาตรการป้องกันเหตุทะเลาะวิวาทของ นักศึกษาทั้งสองสถาบัน ขณะนี้ พ.ต.อ.พันษา ระบุว่า ได้สั่งการให้ตำรวจเข้าพื้นที่เฝ้าระวังทั้งหน้าสถานศึกษาทั้งสองแห่ง ไปจนถึงจุดที่ซ้อนทับกัน อาทิ ป้ายรถประจำ สกายวอร์ค หรือจุดอื่นๆ ที่มีความเสี่ยง ในช่วงเวลาตั้งแต่ 16.30 - 18.00 น.

ผบ.ตร.ตรวจฝึกซ้อมระงับเหตุช่างกลตีกัน

นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายภาคประชาชน คนในพื้นที่ทั้งหมด ที่จะคอยสอดส่องและแจ้งเหตุให้กับเจ้าหน้าที่ผ่านกลุ่มไลน์ หรือ โทรศัพท์ หากพบว่ามีการรวมตัวของกลุ่มนักเรียนทั้งสองสถาบัน รวมถึงตำรวจจะตรวจร่วมกับอาจารย์ประจำสถาบันทั้งสองแห่ง ซึ่งหากพบว่ากลุ่มนักเรียนมีพฤติกรรมที่อาจจะเป็นการเตรียมก่อเหตุทะเลาะวิวาททางสถานศึกษาก็จะมีการดำเนินการทันที หรือ หากตำรวจพบกลุ่มนักเรียนที่อาจก่อเหตุ ก็จะขอตรวจค้นอาวุธเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การฝึกยุทธวิธีระงับเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาทครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับการอบรมจากหน่วย อรินทราช 26 เพื่อขั้นตอนการป้องกันเหตุที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ผบ.ตร.ตรวจฝึกซ้อมระงับเหตุช่างกลตีกัน

ผบ.ตร.ตรวจฝึกซ้อมระงับเหตุช่างกลตีกัน

logoline