
จากกรณีข่าวสะเทือนวงการสีกากี กับกรณีเหตุอุกอาจ หลัง "แม็ค อนุสาวรีย์” ควงปืนบุกเดี่ยว “ปล้นบ่อนการพนันในพื้นที่ดินแดง” ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของพื้นที่สน.ดินแดง ตั้งอยู่หลังแฟลตดินแดง เป็นบ่อนถั่วขนาดใหญ่กลางกรุง กวาดเงินสดไปเกือบ 300,000 บาท หลังก่อเหตุเจ้าตัวได้ตบหน้า เสี่ยเปี๊ยกและเสี่ยแจ็ค เจ้าของบ่อนผู้กว้างขวาง หอบเงิน หลบหนีลอยนวล โดยเหตุเกิดเมื่อเช้ามืดวันที่ 24 ส.ค.65 ที่ผ่านมา (อ่านเพิ่มเติม)
โดยจากข่าวดังกล่าวเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเป็นอย่างมากโดยเฉพาะประเด็ดเรื่องการปล่อยให้มีบ่อนการพนันเกิดขึ้นกลางกรุงแบบเย้ยกฎหมาย แม้ที่ผ่านมาตำรวจพยายามออกมายืนยันอยู่เสมอ ว่าไม่มีบ่อนพนันในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แต่เมื่อปรากฎภาพคนร้ายบุกเข้าไปปล้นทรัพย์ในบ่อนเกิดขึ้น ซึ่งการก่อเหตุครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก และผู้ก่อเหตุอย่าง "แม็ค อนุสาวรีย์” ก็ยังมีข้อมูลว่าเป็นเพื่อนสนิทกับ “เสือ ดุสิต” โจรที่เคยก่อเหตุปล้นบ่อนกลางเมืองมาก่อนหน้านี้จนเป็นข่าวครึกโครม
ย้อนคดีโจรปล้นโจร “เสือ ดุสิต” ปล้นบ่อนย่านสายไหม-สะพานใหม่
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2562 มีเผยแพร่ภาพและข้อมูลเหตุการณ์ ภาพจากกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพชายกลุ่มหนึ่งถือปืนเข้าไปปล้นในบ่อนไฮโล ในซอยพหลโยธิน 50 แยก 1 ย่านสะพานใหม่ กลายเป็นหลักฐานสำคัญที่ตอกย้ำว่า บ่อนพนันยังลักลอบเปิดอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ภาพยิ่งชัดขึ้น เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "เสือดุสิต" โพสต์ข้อความในทำนองว่าเป็นหนึ่งในผู้ร่วมปล้นครั้งนี้ ว่า "ชีวิตผมไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ผมแค่ไปเอาเงินคืน ก็ต้องตามที่ผม ครอบครัวผมไม่เกี่ยว ลูกผู้ชายหน่อยคับ ตราหน้าผมไว้เลย ผมอะเด็กสายไหม เงินแค่นี้ท่านไม่สะดุ้งหรอก ท่านก็คิดสะว่าทำบุญ"
หลังเกิดเหตุ ตำรวจตามจับผู้ก่อเหตุได้ทันที 4 ราย มีนายสัมฤทธิ์ ริมเถื่อน ฉายา "เสือดุสิต" วัย 33 ปี เป็นหัว หน้าแก๊ง และอ้างถึงสาเหตุที่ "ต้องปล้น" ว่าเข้าไปเล่นในบ่อนแต่เสียจำนวนมาก และเชื่อว่าถูกโกง จึงไปรวบรวมสมัคร พรรคพวก เข้าปล้นได้อย่างง่ายดาย เพื่อเอาเงินที่ถูกโกงคืนมาเท่านั้นแต่เพียงไม่นานก็ถูกตำรวจตามจับได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกันแม้คดีนี้ตำรวจจะสามารถปิดคดีได้อย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ การลักลอบเปิดบ่อนพนันซึ่งแน่นอนว่า เป็นความบกพร่องของตำรวจในพื้นที่ คำสั่งช่วยราชการจึงถูก ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 สะบัดปากกา ลงนาม ให้ 5 เสือโรงพักบางเขน ช่วยราชการทันทีจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตามในคดีนี้ เมื่อเดือนธันวาคมปี 2563 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษายกฟ้อง "เสือดุสิต" และพวก โดยมีเนื้อหาคำพิพากษาว่า พิพากษาคดีปล้นเงินบ่อนที่พนักงานอัยการ คดีอาญา เป็นโจทก์ฟ้อง นายสัมฤทธิ์ ริมเถื่อน หรือเสือ ดุสิต นายวัชระ มากจงดี นายอนนต์ เศรษฐ์อวยพร และนายสัมภาษณ์ โสภี เป็นจำเลยที่1-4 ในความผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์ ฯ คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่าเมื่อวันที่ 24 ส.ค.62 เวลากลางคืนจำเลยทั้งสี่ ร่วมกันใช้อาวุธปืนบีบีกัน 2กระบอกปล้นเงินสดจำนวน 15,500บาทของนายมานิตย์ ใช้ประทุม ผู้เสียหายไปโดยทุจริต ทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33,84,340,392 ริบปืนบีบีกันทั้ง 2กระบอกของกลางให้จำเลยทั้งสี่คืนเงินจำนวน3,500 บาทที่เป็นส่วนขอผู้เสียหายที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหาย
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังเป็นยุติได้ว่า คืนวันเกิดเหตุ นายมานิตย์ ใช้ประทุม ผู้เสียหายชักชวนจำเลยที่ 1 ให้ร่วมเล่นพนันไฮโล โดยจำเลยที่ 1และ2 พกปืนบีบีกันติดตัวไปด้วยส่วนจำเลยที่ 3-4 อยู่ในอาคารที่เกิดเหตุ ต่อมาจำเลยที่ 1โวยวายว่า มีการเล่นโกงพนัน จนเสียเงินไป 15,500 บาท จึงเอาเงินจากวงพนันไป 12,000บาท ผู้เสียหายจึงมอบเงินให้จำเลยที่ 1 อีกจำนวน 3,500 บาทเพื่อให้ครบถ้วนตามที่จำเลยที่ 1 เสียเงินพนันไป
ทางนำสืบของโจทก์ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า สาเหตุที่จำเลยที่ 1โวยวายและเอาเงินจากวงพนันไปจำนวน 12,000บาทเนื่องจากจำเลยที่ 1 เข้าใจว่า ถูกโกงการเล่นพนันไฮโล เนื่องจากสังเกตเห็นลูกเต๋าพลิกไปมาผิดปกติ จนเสียเงินพนันไป 15,500 บาท ต่อมาผู้เสียหายได้หยิบเงินอีก 3,500บาทมอบให้จำเลยที่ 1 แสดงว่ามีการโกงเล่นพนันจริง
ดังนี้การที่จำเลยที่ 1 เอาเงินจำนวน 12,000บาทคืนจากเงินกองกลางในวงพนัน ฟังได้ว่าเนื่องมาจากจำเลยที่ 1 จับได้ว่าเจ้ามือเล่นโกงทำให้จำเลยที่ 1 เสียพนัน การกระทำของจำเลยที่ 1 เชื่อว่าตนมีสิทธิอันจะพึงมีพึงได้เงินที่เสียพนันไปคืน โดยผู้เสียหายเป็นผู้มอบเงินอีก3,500 บาทให้จำเลยที่ 1 เองโดยสมัครใจถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1กับพวก มีเจตนาทุจริตอันเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์ พิพากษายกฟ้อง และพวกจำเลยไม่ต้องคืนเงินจำนวน3,500 บาทแก่ผู้เสียหาย ริบปืนบีบีกัน