svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

เปิดวาปพ่อนายพล คู่กรณี "แสตมป์" ถึงขั้นท้าดวล สรุปเกิดอะไรขึ้น พร้อมชมคลิป

เปิดวาป พ่อนายพลของคู่กรณี "แสตมป์" ถึงขั้นท้าดวล เพื่อปกป้องตัวเองและภรรยา สรุปจบที่นี่เกิดอะไรขึ้นบ้าง พร้อมฟังคลิปเต็มๆ ความอัดอั้นของแสตมป์

18 มกราคม 2568 จากกรณี  นายอภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข หรือ “แสตมป์” นักร้องดังออกมาเคลื่อนไหว ถึง “นิว จีริสุดา” ภรรยาถูกคุกคาม บุกไปถ่ายรูปหลังเวที กล่าวหาว่าเป็นบ้า จนต้องพึ่งศาล ซึ่งที่ผ่านมาทำให้นักร้องชื่อดัง เลือกรับงาน หายหน้าหายตาไปจากคอนเสิร์ตต่างๆ เป็นเวลานานถึง 2 ปี

กระทั่งล่าสุดมีการเผยแพร่คลิป “แสตมป์” ออกมาพูดถึงเรื่องราวต่าง ๆ บนเวทีคอนเสิร์ตแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา อย่างละเอียด ความยาว 21.14 นาที ระบุว่า..

หากมีเรื่องไม่ดีเกิดอะไรขึ้นกับตนและภรรยา ขอให้รู้เอาไว้ว่ามีศัตรูเพียงคนเดียว เอ่ยถึงถูกนายพล ซึ่งเป็นพ่อของคู่กรณีข่มขู่ ประกาศพร้อมสู้ ถ้ายิงมาก็ต้องสู้

เรื่องที่เกิดขึ้นถึงขั้นต้องขึ้นศาลเพื่อขอความเป็นธรรม แต่แม้เรื่องในศาลจบ เพราะอีกฝ่ายชิงรับสารภาพ แต่ภายหลังออกจากศาล คู่กรณีกลับไม่ยอมจบ นำแสตมป์และภรรยาไปแขวน ด่าแรง แต่ถึงอย่างไรวันนี้ก็ดีใจที่ได้ปกป้องภรรยา
เปิดวาปพ่อนายพล คู่กรณี \"แสตมป์\" ถึงขั้นท้าดวล สรุปเกิดอะไรขึ้น พร้อมชมคลิป

เปิดวาป "ลูกนายพล" คู่กรณี "แสตมป์"

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก "อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ" ได้ออกมาโพสต์เปิดวาป คู่กรณ๊ของ แสตมป์ ลงภาพและรายละเอียดดังนี้..

จากที่ สแตมป์ อภิวัชร์ พูดบนเวทีมีประโยคนึงพูดว่าเพราะพ่อของจำเลย(ลูกสาว) "เป็นทหารยศพลตรี" มาขึ้นศาลแทนลูกสาว แบกเอกสารมาปึกใหญ่ แล้วก็บอกด้วยว่าตัวเองกำลังจะบรรจุเป็นองครักษ์ โดยขอให้สแตมป์และภรรยาถอนฟ้องลูกสาวของตน ไม่งั้นจะยัดคดีทางการเมืองให้

จากนั้นนายพลรายนี้ยังขับรถไปที่บ้านแม่สแตมป์ บอกว่าเป็นแฟนคลับของคุณสแตมป์ ถามว่าบ้านราคาเท่าไหร่ เอาของไปให้แล้วก็ถ่ายรูปเก็บเอาไว้

ส่วนภรรยาของนายพลก็แฝงตัวเข้าไปในกรุ๊ป Open Chat ของแฟนคลับสืบว่าไปเล่นคอนฯ ที่ไหน แล้วก็เข้าไปดูคอนเสิร์ตโดยพยายามแสดงตัวให้สแตมป์รู้ว่าพวกเค้ากำลังจับตาดูอยู่ทุกฝีก้าว จนสแตมป์ตัดสินใจปิด Open Chat

จะใช่ครอบครัวหรรษา พ่อ แม่ ลูก นี้หรือไม่ เรื่องนี้สแตมป์ออกมาเปิดเอง ถึงเวลาที่ต้องออกมาพูดให้กระจ่าง..

เปิดวาปพ่อนายพล คู่กรณี \"แสตมป์\" ถึงขั้นท้าดวล สรุปเกิดอะไรขึ้น พร้อมชมคลิป

สรุปจบ “แสตมป์” กับ “ลูกนายพล”

“แสตมป์” ได้เคลื่อนไหวตอบโต้ พร้อมท้าทายคู่กรณีให้ออกยิงมาพร้อมสู้ ศัตรูมีคนเดียว เหตุภรรยาถูกคุกคาม ขึ้นศาลแล้วไม่จบ ซ้ำกลับถูกข่มขู่ ผ่านเวทีคอนเสิร์ต มีรายละเอียดระบุว่า...

“ผมขอเล่าเรื่องบางเรื่อง ซึ่งมันจะปกป้องคนในครอบครัวผมได้ ถ้าผมนำมาออกสู่แสงสว่าง ภรรยาผมถูกโจมตีในที่มืดมานานเกินไปแล้ว ผมหายไปช่วยฟ้องร้องคน 2 คน ที่บุกรุกเข้ามาถ่ายรูปภรรยาผมหลังเวที ทั้งปี 2567 ไปฟ้องเขามา

เริ่มจากว่ามีคนๆ หนึ่งสร้างสถานการณ์ ทำให้เกิดความเกลียดชัง สร้างความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับภรรยาผม ในวงการเพลงและนอกวงการเพลง ทั้งที่เขาไม่ได้รู้จักกับภรรยาผมเป็นการส่วนตัวมาก่อน และก็มีคนหลงเชื่อถึงขั้นมาโพสต์ด่าโจมตี บุกเข้ามาหลังเวทีจนเราทำงานไม่ได้

คนๆ นี้โผล่หน้ามาให้ภรรยาผมรำคาญใจมาเป็นกว่า 10 ปี ทั้งที่ไม่รู้จักกัน เรื่องมันร้ายแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2565 สามปีก่อน ที่มีตัวละครเพิ่มเข้ามาคือแฟนของเขาที่ทำงานในดนตรีวงหนึ่ง ทำให้เขามีป้ายห้อยซึ่งจะสามารถบุกรุกเข้ามาหลังเวทีที่ไหนก็ได้ตามอำเภอใจ

ในช่วงปี 2565 ขณะที่ผมเล่นดนตรีอยู่บนเวที 2 คนนี้ก็แวะมาโฉบผ่านหน้าผ่านภรรยาผม บางครั้งบางวันก็มาสร้างสถานการณ์มานั่งร้องไห้ใกล้ๆ ภรรยาผมทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อนเป็นการส่วนตัว ซึ่งภรรยาผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่รู้ว่ามันน่าจะไม่ปลอดภัย แต่เธอไม่อยากมีเรื่องไม่อยากตกเป็นข่าว เธอจึงใช้วิธีหลบเลี่ยงเอา ภรรยาผมบอกกับผู้จัดงานว่าขอไม่รับงานร่วมกับวงดนตรีวงนี้ไปก่อนคิดว่าจะจบได้โดยที่ไม่ปะทะกัน

จนวันที่ 26 ก.พ. 2566 มีงานๆ นึงเป็นเฟสติวัลที่เดอะสตรีทรัชดา เราทราบไม่กี่วันก่อนหน้าว่าเราจะต้องไปเล่นกับวงนี้ เราแคนเซิลไม่ทันแล้ว ทำให้ต้องเดินทางไป เมื่อไปถึงพบว่ามีคนมาดูต้นทาง มีพยานรู้เห็นเป็นคนในวงเราบอกว่าสองคนนี้มาดักรอ มานั่งรอหน้าห้องพักศิลปินพวกเราเป็นชั่วโมงแล้ว เมื่อเราเดินทางไปถึง จำได้ว่ารู้ว่าอันตรายแล้ว พบกับภรรยาเดินเข้าไปสองคนนี้ปรี่เข้ามาประชิดตัวภรรยาผม พูดจากล่าวหา หาเรื่อง มีคนอัดดคลิปวิดีโอไว้ ผมไม่ทราบว่าจากทิศทางไหน แล้วเขาไปบอกกับคนอื่นในวงการเพลงว่าบังเอิญเจอภรรยาผมหลังเวทีแล้วภรรยาผมไปคุกคามเขาโดยไม่มีสาเหตุ

คนที่ได้ฟังเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่ามันไม่เมกเซ้นส์ก็ติดต่อเรามา แต่ภรรยาผมก็ยังไม่เอาเรื่องเอาความ แต่ขอใช้การ์ด ไปลาดตระเวนก่อน 1 ชั่วโมงว่ามีสองคนนี้ไหม ปรากฏว่าเจอบ้างในปี 66 ไม่นานหลังจากนี้สองคนนี้ก็ลาออกจากวงดนตรีวงนั้นไป พวกเราติดต่อไปทางหัวหน้าวงดนตรีวงนั้นว่าขอโทษจริงๆ ที่ผ่านมาเราร่วมงานกันไม่ได้ เราไม่ได้มีอะไรกับคุณเลย นะ แต่สองคนนั้นเขาปั่นป่วนเราตลอดจนเราทำงานไม่ได้ แต่ตอนนี้เราทำงานร่วมกันได้แล้ว เพราะเป็นเพื่อนกันมาตลอด หัวหน้าวงก็ให้ข้อมูลว่าสองคนนั้นเป็นแค่แฟนของทีมงานรู้จักแค่นั้นไม่เคยร่วมงานในตำแหน่งใด ผมเลยทักไปหาในคนที่เคยโพสต์ในโซเชียลว่าคนนี้เป็นสไตลิสต์แต่เขายังไม่ตอบผม ถ้าได้ยินสิ่งนี้ตอบผมมาด้วยว่าเอามาจากไหน
เปิดวาปพ่อนายพล คู่กรณี \"แสตมป์\" ถึงขั้นท้าดวล สรุปเกิดอะไรขึ้น พร้อมชมคลิป
ผ่านไปไม่นาน 2 คนนี้ย้ายไปอีกวงซึ่งอยู่มานานจนถึงปัจจุบันนี้ ตั้งแต่วันแรกที่รู้เราก็ใช้คอนดิชั่นเดียวกันขอไม่รับงานร่วมกันเพื่อจะไม่อยากปะทะ ไม่อยากเป็นข่าวอะไรทั้งสิ้น คิดว่าจะจบได้ ผ่านมาถึง 21 ต.ค. 2566 จำได้ดี ที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี เดินเข้ามางาน ก็มีจำเลยคนนี้ยืนดักรออยู่ ภรรยาก็พาผมเบี่ยงตัวไปซ่อนในห้องพักศิลปิน จนกระทั่งถึงเวลาสแตนบายโชว์ของเรา ผมก็ต้องออกไป ไม่มีทางเลือก เจอคนนี้ยืนรออยู่มองด้วยความอาฆาตมาตรร้าย ชูมือถือขึ้นสูงพร้อมอัด สุดท้ายก็เกิดการปะทะกัน

และเช่นเคยก็ไปบอกคนอื่นว่าบังเอิญเจอกันหลังเวทีแล้วภรรยาผมก็ไปคุกคามเขาโดยไม่มีเหตุผล แต่วันนั้นผมเริ่มเช็ก เราไม่ได้ใช้การ์ด เพราะเราเช็กแล้วเช็กอีกว่างานนั้นไม่มีคนนั้นอยู่เราชะล่าใจว่าเราเล่นได้ เราไม่ได้เอาการ์ดไป ปรากฏว่าเขามากับวงอะไร ทำไมไม่มีรายชื่อวงนี้ ก็ขอผู้จัดงานไป เขาส่งชื่อมา เป็นเพื่อนที่ดีของเรา ขอบคุณมากๆ ครับ รายชื่อทีมงานทุกตำแหน่ง วงเกาหลี วงไทย วงญี่ปุ่น วงไต้หวัน ไม่มีชื่อสองคนนี้ เราโทรไปถามซาวด์เอ็นจิเนียร์ที่จะเล่นก่อนหน้าเราว่ารู้จักคนนี้ไหม เขาบอกว่ารู้แต่ไม่ได้มา แสดงว่าเขาไม่ได้บังเอิญเจอแน่นอน เขามาเพื่อดักรอภรรยาผม ถึงกระนั้นก็ยังไม่เอาความ

7 วันต่อมา 28 ต.ค 2566 2 คนนี้ไปนั่งดักรอผู้บริหารเจ้าของค่ายเพลงค่ายใหญ่ที่สุดค่ายนึงในตอนนี้ของประเทศเรา ไปดักรอที่โซฟาทั้งที่เขาไม่ได้รู้จักมาก่อน ดักรอแล้วร้องไห้ เล่าว่าไปงานเฟสติวัลแล้วไม่ปลอดภัยถูกคุกคามโดยภรรยาผม ผู้ใหญ่ท่านนั้นก็รับฟังให้คำปรึกา แต่รู้สึกว่ามันไม่เมกเซ้นส์ก็เลยติดต่อมาฟังความข้างเรา แล้วรู้สึกว่าพวกเราเดือดร้อนว่ะ

ในปีต่อมาท่านก็เสียสละเวลาและเสียอะไรต่างๆ ในชีวิตท่าน ไปขึ้นศาลเป็นพยานให้เราว่าสองคนนี้มาทำลายชื่อเสียงภรรยาผม ไม่อยากให้ผมทำงานต่อหรือเปล่าก็ไม่ทราบ

เหตุการณ์ที่ธันเดอร์โดมทำให้ผมตัดสินใจโทร.หานักร้องนำของวงดนตรีวงนี้ที่เขาสังกัดอยู่ ขอโทษเหมือนวงที่แล้วเลย ขอโทษว่าเราร่วมงานไม่ได้ ตราบใดที่สองคนนี้ยังอยู่กับคุณเราทำงานด้วยไม่ได้จริงๆ ตลอดการสนทนาผมรู้สึกได้ว่านักร้องนำท่านนี้อัดเสียงผมอยู่ตลอด นั่นแปลว่าสองคนนั้นไปบลัฟไว้ก่อนแล้วและเขาเชื่อด้วยว่าภรรยาผมจะไปคุกคามเขา แต่ภรรยาผมจะไปคุกคามเขาก่อนได้อย่างไรเมื่อทุกครั้งที่เกิดเหตุ มันเกิดหน้าห้องพักศิลปินของผม ภรรยาผมจะไปคุกคามเขาก่อนได้อย่างไร เมื่อทุกครั้งที่เกิดเหตุ มันเกิดตรงสแตนบายที่ผมจะเดินขึ้นโชว์ ภรรยาผมจะไปคุกคามเขาก่อนได้อย่างไร เมื่อทุกครั้งที่เกิดเหตุ เราเช็กอย่างดีแล้วว่าไม่มีคุณ ภรรยาผมจะคุกคามเขาได้อย่างไร ในเมื่อเราไปไหนมาไหนต้องการ์ด 2 คน แต่เขาเดินไปไหนได้อย่างสบายใจ

แต่สุดท้ายก็แล้วแต่ว่าใครจะเชื่อแบบไหน ในเมื่อไม่มีความปลอดภัย ไม่มีใครช่วยเราได้ เราก็ต้องไปพึ่งบารมีศาลเพราะไม่เช่นนั้น 2 คนนี้จะไปวาดภาพว่าภรรยาผมเป็นอะไรก็ได้เลย มีหลักฐานมากมายที่คนในวงการเพลงส่งมา เพราะเขาไป DM ไปเล่าให้คนอื่นฟัง รู้สึกว่าไม่เมกเซ้นส์ ประมาณว่า อีป้านี่มันเป็นอะไรโรคประสาทกำเริบเหรอ แขวนโพสต์ภรรยาผมว่าโรคประสาทกำเริบ ก็รู้สึกว่าโอเค งั้นให้ศาลแล้วกัน ไปอยู่ในโลกเดียวกัน เพราะการที่จะทำให้น้ำหนักคำพูดใครสักคนหายไปง่ายสุดคือบอกว่าคนเป็นบ้า

เราจึงประสานกันในปี 2567 เรื่องที่น่ากลัวที่สุดกับครอบครัวผมเกิดจากตรงนี้ระหว่างที่ไปศาลกัน พ่อของจำเลยท่านนึงเป็นทหารยศนายพล ยศพลตรีจากพิษณุโลกมาขึ้นศาลแทนลูกเขา แล้วเบ่งในศาลในนั้นเป็นเรื่องยศ ผลงาน เครื่องราชย์ฯ และบอกเราว่าเขากำลังจะบรรจุเป็นองครักษ์ ขอให้ผมกับภรรยาถอนฟ้องลูกของเขาซะ มิเช่นนั้นผมจะโดนยัดคดีทางการเมือง นี้คือเรื่องในศาล นอกศาลนายพลท่านนี้เคยขับรถไปที่บ้านแม่ของผม แม่ผมถามว่าคุณเป็นใคร ชื่ออะไร เขาไม่ตอบ เขาบอกว่าเป็นแฟนคลับ ถามว่าบ้านแม่ผมราคาเท่าไหร่ เอาของมาให้ แล้วถ่ายรูปแม่ผมเก็บไว้ ภรรยาของนายพลท่านนี้ก็เคยมาดูคอนเสิร์ตผมปะปนในกรุ๊ปโอเพ่นแชต คอยทักแฟนคลับถามว่าวันนี้ไปไหน วันนั้นไปไหน

จนกระทั่งวันนึงที่คดีในศาลเดือดสุดๆ ผมจึงทักไปบอกแอดมินว่าปิดโอเพ่นแชตไปเลย และหลังจากนั้นผมก็ไม่ทำตารางงานเหมือนศิลปินท่านอื่นอีกเลย เพราะไม่รู้ว่าครอบครัวนี้จะบุกมาเมื่อไหร่ จำเลยคนต้นเรื่องที่ปั่นเรื่องทุกอย่างก็ติดตามและดักรอผมเป็นเวลา 10 กว่าปี แม้กระทั่งสถานที่อื่นๆ ที่ไม่ใช่สถานที่แบบนี้ ปั๊มน้ำมันที่เราแวะ สนามบิน สถานที่ทั่วไป หน้าโรงแรมที่เราพัก หนักที่สุดเคยมานั่งข้างๆ ผมตรงนี้บนเครื่องบิน ระหว่างทำการฟ้องร้องผมลองตรวจสอบดูพบว่ามีการล็อกที่นั่งเอาไว้จริงๆ จากเพื่อนเขาที่ทำงานสายการบินนั้น หลังจากนั้นผมขอโทษแฟนเพลงเหนือใต้อีสาน ผมขอไม่รับงานที่ต้องนั่งเครื่องบินอีกเลยในประเทศ ระหว่างฟ้องร้องกันผมรับงานอยู่บ้าง มีการ์ดสองคนลาดตระเวน มีผู้ชายคนนึงชูมือถือขึ้นมาเป็นรูปจำเลย ผมก็เลยโอเค ไม่รับงานก่อนแล้วกันจนกว่าศาลจะคุ้มครองพวกเรา

ที่น่ากลัวที่สุดคือภรรยาผมถูกแฮกไอจีและเมื่อภรรยารู้ตัวเข้าไปเช็กดู มันจะมีข้างหลังดูว่าเราทำอะไรบ้าง ล็อกแอ็กเคานต์ใครบ้าง พบสิ่งที่น่าตกใจคือมีคนเอาไอจีภรรยาผมไปบล็อกคนมากมาย ซึ่งภรรยาผมไม่เคยรู้จักมาก่อนในชีวิต และเมื่อปลดอันบล็อกเข้าไปถาม เป็นใครมาจากไหน เป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุดทุกคนนั้นเกี่ยวข้องกับคนนี้หมดเลยรวมถึงสามีเก่าเขาด้วย

ถึงน่ากลัวประมาณนั้น ภรรยาผมก็สู้ต่อ จนวันที่ 30 พ.ค. 2567 เธอชนะคดีมาได้ด้วยการรับสารภาพของจำเลยเอง เพราะเขายอมจำนนต่อหลักฐานในชั้นสืบพยาน มีการยกมือไหว้ขอโทษภรรยาผม ขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมาและจะไม่ยุ่งกับภรรยาผมอีก

มีการขอลดราคาค่าชดใช้เพราะเขาบอกว่าจ่ายไม่ไหว ภรรยาผมลดให้เลย 10 เท่า ขออย่างเดียวช่วยออกจากศาลแล้วพูดแบบนี้ ไปบอกคนที่คุณหลอกเป็นเครื่องมือทั้งหลายว่าคุณโกหก คุณเล่าเรื่องไม่จริง แล้วเลิกมายุ่งกับภรรยาผม โดยเฉพาะแฟนของคุณ ที่เหมือนถูกกีดกันไม่ให้เห็นความจริงของหลักฐานต่างๆ ในศาล เหมือนเขารีบชิงสารภาพเพื่อไม่ให้แฟนเขามาเห็นว่าความจริงเป็นยังไง เพราะจำเลยอีกคนดูโกรธ เกลียดชังภรรยาผมมากๆ เหมือนจะฆ่าให้ตาย โดยไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น และเขาก็ไม่ได้รู้จักกัน เขาก็บอกว่าได้

ออกจากศาลวันที่ 30 พ.ค.อีก 2 อาทิตย์ต่อมาโดนแขวนด่าเหมือนเดิม โดยคนแก๊งเดิม พวกผมลงรูปคู่กัน โดนแขวนด่าว่าอุบาทว์ เดือนตุลาคม ผัวเมียโรคจิตบ้านวิกลคนประหลาดว่างๆ จูงมือไปหาจิตแพทย์บ้างนะ ผมก็ทักเขาไปว่าคุณโกรธเกลียดผมเรื่องอะไร คุณทราบเรื่องในศาลไหม เขาบล็อกไอจีผมไปเลย ผมติดต่อไปที่ภรรยาฝั่งจำเลย ที่จะมาขึ้นวันที่ 31 พ.ค.แต่ 30 พ.ค. ชิงรับสารภาพหายไปก่อน เขาบอกว่าคดีจบแล้ว ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องมาแล้ว แล้วก็หายไปเลย

ผมติดต่อไปที่วงดนตรีวงนั้นที่เขาสังกัดอยู่ เขาก็ปิดประตูใส่ผมเหมือนเดิม บอกว่าไม่อยากยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้ แต่จริงๆ คุณถูกลากมาเกี่ยวตั้งแต่ที่เพื่อนของคุณหลอกให้คุณมาอัดเสียงผมแล้ว แล้วป้ายห้อยคอที่คุณให้เขาในทุกวันมันคือตั๋วฟรีที่คุณให้เขามาคุกคามภรรยาผมซ้ำๆ อีก จะว่าไม่เกี่ยวก็แล้วแต่จะมอง อยากจะบอกว่าเราไม่ได้มโน ศาลมีคำสั่งแล้วว่าเราเจอกันไม่ได้แล้ว ศาลมีคำสั่งว่าถ้า 2 คนนั้นมีพฤติกรรมเช่นเดิม มีการบุกมาหลังเวทีเจอภรรยาผมอีก ศาลมีคำสั่งว่าให้จำคุก ทันที 15 วันโดยไม่ต้องสืบสวนแล้วค่อยตั้งคดีใหม่ แล้วเมื่อวันนั้นมาถึงแล้วเขาใส่ป้ายห้อยคอวงคุณ คุณก็ต้องเกี่ยว เราต่างหากไม่อยากให้คุณมาเกี่ยว

ผมติดต่อไปที่เจ้าของค่ายของวงดนตรีวงนี้เขาบอกว่าภรรยาผมไม่สามารถจะบอกได้ว่าเป็นผู้ชนะในคดีเพราะเราสู้กันไม่ถึงในชั้นที่มีคำพิพากษา แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นเราจะไปศาลกันทำไม เมื่อคนที่ถูกกระทำ ฟ้องเป็นโจทก์แบกเอกสารหลักฐาน 500 หน้ามาศาล จำเลยแบกมา 1 แผ่น เขียน 2 บรรทัด เห็นปุ๊บชิงรับสารภาพออกไปบอกคนอื่นว่าไม่ต้องห่วงว่าเคลียร์ได้แล้วคดีจบแล้ว แต่ภรรยาผมที่สู้มาออกไปบอกใครไม่ได้ว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ ถ้าจะเป็นเช่นนั้นแล้วจะโดนฟ้องมาก็ขอให้เป็นเช่นนั้นเถอะสถานการณ์ข้างนอกศาลแทบไม่ต่างจากก่อนที่เราจะไปศาลเลย เพิ่มเติมคือคำขู่ของนายพลท่านนั้น

ผมจึงขอให้เวทีแห่งนี้ประกาศบอกให้ทุกคนได้ยินเอาไว้ว่า คนๆ นั้นที่ปั่นเรื่องราวเข้าใจผิด สร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับภรรยาผม เขายอมแพ้ไปแล้วในศาล ผมไม่รู้ว่าเขาบอกคุณว่าอะไรแต่เขารับสารภาพไปแล้วในสัญญาว่าจะออกมาแก้ให้ แล้วทุกวันที่ 30 ของเดือนเขาจะชำระผ่อนค่าเสียหายให้ภรรยาผมอยู่ เดือนที่แล้วผ่อนช้าไป 26 นาที ภรรยาผมสามารถไปที่กรมบังคับคดีแล้วบอกให้ยึดทรัพย์สินทั้งหมดในชีวิตคนๆ นี้ได้เลยในทันที แต่เขาก็ยังไม่ทำ เขาให้โอกาสคุณเสมอ

ดังนั้นคนที่จะโพสต์ด่าภรรยาผม คนที่จะบุกรุกมาหลังเวที จงทบทวนให้ดีๆ เพราะเราจะไม่เจรจาอีกแล้ว ต่อไปเราจะสู้กันด้วยศาลอย่างเดียว (เสียงปรบมือจากผู้ชมให้กำลังใจ)

ผมฝากถึงท่านนายพล ผมเข้าใจผมนับถือที่ปกป้องครอบครัวท่าน ผมก็ทำแบบนั้นอยู่ แต่จะดีกว่านี้ไหมถ้าท่านรักลูกท่าน ด้วยการ แทนที่จะรักด้วยการมาขึ้นศาลแล้วเขารอในรถ บุกรุกไปบ้านแม่ผมแทนเขา ท่านรักลูกของท่านด้วยการดูแลให้เขาอยู่แต่ในบ้าน ให้เขาอยู่ที่จังหวัด ไม่ให้หาเรื่องใส่ร้ายภรรยาผมอีก แล้วคดีที่ท่านข่มขู่ผมไว้ ถ้าท่านยิงมาผมก็ต้องสู้กันไป แต่ถึงวันนั้นผมคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเปิดศึกในสื่อแล้วทุกคนจะรู้ว่าท่านคือใคร

สุดท้ายนะครับผมขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนผมและครอบครัวมาตลอด 20 ปี (แฟนๆ ปรบมือให้กำลังใจสนั่น) ผมว่าปรบมือให้ภรรยาผมที่สู้มาได้ตลอดดีกว่า ผมดีใจที่ในที่สุดที่ได้ปกป้องนิว (แฟนคลับปรบมือให้นิว) ผมไม่รู้ว่าหลังจากวันนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวผมนะครับ แต่ผมจะบอกกับตัวโกงไว้เลยนะ ว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับผมและครอบครัว ชีวิตนี้ผมมีศัตรูคนเดียว แค่นี้ครับขอบคุณมากครับ”

ชมคลิป

เปิดวาปพ่อนายพล คู่กรณี \"แสตมป์\" ถึงขั้นท้าดวล สรุปเกิดอะไรขึ้น พร้อมชมคลิป
ขอบคุณคลิป : ยูทูป "SaruTA"