svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

“เจ๊นุช” ใช้วุฒิ ปวส.ด้านบัญชี เป็นวุฒิขาดแคลน จึงได้รับการยกเว้นอายุเกิน

23 สิงหาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สตช.แจง “เจ๊นุช” ได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์อายุเกิน 35 ปี เหตุใช้วุฒิ ปวส.ด้านบัญชี เป็นคุณวุฒิที่ขาดแคลนและมีความจำเป็น

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณี ส.ต.ท.กรศศิร์ บัวแย้ม หรือ “เจ๊นุช” อายุ 43 ปี ผบ.หมู่ กก.4 บก.1 ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายอดีตทหารคนรับใช้อย่างทารุณ อายุเกินเกณฑ์เข้ารับราชการตำรวจ ว่า ส.ต.ท.กรศศิร์ เป็นตำรวจชั้นประทวน เข้ารับราชการตำรวจตามขั้นตอนถูกต้อง ผ่านการคัดเลือกโดยคณะกรรมการ โดยใช้วุฒิ ปวส.ด้านบัญชี เป็นคุณวุฒิที่ขาดแคลนและมีความจำเป็น จึงได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์ตาม ก.ตร.แม้อายุจะเกิน 35 ปี

“เจ๊นุช” ใช้วุฒิ ปวส.ด้านบัญชี เป็นวุฒิขาดแคลน จึงได้รับการยกเว้นอายุเกิน

“เจ๊นุช” ใช้วุฒิ ปวส.ด้านบัญชี เป็นวุฒิขาดแคลน จึงได้รับการยกเว้นอายุเกิน

ทั้งนี้ ส.ต.ท.กรศศิร์ บรรจุเป็นตำรวจเมื่อปลายปี 2560 สังกัดสำนักงบประมาณและการเงินตร. จากนั้นเดือน ก.พ. 2565 ย้ายมาสังกัดตำรวจสันติบาล 1 ​ส่วนการดำเนินการทางวินัย ขณะนี้ถูกสอบสวนวินัยร้ายแรง เนื่องจากถูกดำเนินคดีเป็นเจ้าหน้าที่รัฐค้ามนุษย์ ซึ่งมีอัตราโทษ 2 เท่า และข้อหาทำร้ายร่างกายแต่ยังไม่มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

“เจ๊นุช” ใช้วุฒิ ปวส.ด้านบัญชี เป็นวุฒิขาดแคลน จึงได้รับการยกเว้นอายุเกิน

โดยเส้นทางการรับราชการของ ส.ต.ท.หญิง รายนี้ ขณะที่ยังรับราชการที่สำนักงานงบประมาณฯ ถูก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ขอตัวไปช่วยราชการ ซึ่งไม่มีข้อมูลว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ จากนั้นเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีคำสั่งย้ายไปสังกัดกองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ขณะที่ยังช่วยราชการอยู่ กอ.รมน. จนเพิ่งมีหนังสือส่งตัวกลับหลังเกิดเรื่อง

“เจ๊นุช” ใช้วุฒิ ปวส.ด้านบัญชี เป็นวุฒิขาดแคลน จึงได้รับการยกเว้นอายุเกิน

เมื่อสอบถามว่า ส.ต.ท.คนดังกล่าว เข้ามาโดยใช้คุณวุฒิด้านบัญชีตอนที่ กม.รมน. ขอตัวไปช่วยงาน มีการให้เหตุผลหรือไม่ว่าขอตัวไปช่วยงานด้านไหน พ.ต.อ.กฤษณะ บอกว่า ตนเองยังไม่เห็นเอกสาร จึงไม่ทราบเหตุผล อย่างไรก็ตามประเด็นที่สำคัญกว่าคือการดำเนินคดีผู้ต้องหา ซึ่งการกระทำความผิดเป็นการกระทำส่วนบุคคล ตำรวจจะดำเนินการเต็มที่

 

logoline