svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สปสช. เตรียมโอนสิทธิบัตรทอง "รพ.มงกุฎวัฒนะ" ให้กทม.ดูแลแทน เริ่ม 1 ต.ค.นี้

06 สิงหาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เลขาธิการ สปสช. ชี้เข้าใจเหตุผลความจำเป็นของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ หลังขอลดจำนวนประชากรสิทธิบัตรทอง เผยเร่งประสาน กทม. ให้ศูนย์บริการสาธารณสุขรับช่วงดูแลต่อ ดีเดย์ 1 ต.ค.นี้ ย้ำผู้ใช้สิทธิบัตรทองไม่ได้รับรับผลกระทบ

6 สิงหาคม 2565 จากกรณี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน เพจเฟซบุ๊ก “เหรียญทอง แน่นหนา” ระบุว่า โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ขอลดจำนวนผู้ขึ้นทะเบียนปฐมภูมิสิทธิบัตรทอง หรือสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กับโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากเกิดปัญหาความแออัด มีผู้ป่วยมากเกินพื้นที่ใช้สอยที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยมีเนื้อหาระบุว่า..

 

ผมเคยเรียนให้สาธารณชนทราบมาหลายครั้งแล้วว่าปัญหาความแออัดของผู้ใช้บริการ รพ.มงกุฎวัฒนะ หากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสำนักงานประกันสังคม(สปส.) ไม่ช่วยเหลือ รพ.มงกุฎวัฒนะด้วยการเป็น 'หน่วยงานหลัก' ในการประสานงานขอให้กระทรวงสาธารณสุขอนุญาตเพิ่มจำนวนเตียงและพื้นที่ใช้สอยให้แก่ รพ.มงกุฎวัฒนะเป็นกรณีพิเศษ

 

แล้วในที่สุด รพ.มงกุฎวัฒนะ ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงการลดจำนวนผู้ขึ้นทะเบียนปฐมภูมิสิทธิบัตรทอง , ลดจำนวนการรับผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่ส่งต่อมาจากหน่วยปฐมภูมิต่างๆของ สปสช. ตลอดจนการลดจำนวนผู้ประกันตนสิทธิประกันสังคมด้วย

 

ผมทำหนังสือถึง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แต่ก็เงียบ นิ่งเฉย ไม่ดูดาย ไม่ใส่ใจใยดี แต่ยังโชคดีสำหรับผู้ป่วยประกันสังคมนะครับที่ยังมี สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ติดต่อผมเมื่อสักครู่นี้ว่าจะเข้ามาพบเพื่อหาทางแก้ไขโดยนัดประชุมหารือ เพื่อแก้ไขให้แก่ผู้ป่วยสิทธิประกันสังคมในวันพุธที่ 10 ส.ค.65 เวลา 13.30 น. ณ รพ.มงกุฎวัฒนะ

 

ดังนั้นผู้ป่วยสิทธิประกันสังคมอย่าเพิ่งตื่นตระหนกกันนะครับ สำนักงานประกันสังคมไม่ดูดาย ไม่ทอดทิ้งท่าน 

 

ส่วนท่านทั้งหลายที่เป็นผู้ใช้บริการสิทธิบัตรทองก็โทร.ไปถาม สปสช. ที่ โทร.1330 ก็แล้วกันนะครับว่ามันใส่ใจผู้ป่วยบัตรทอง เหมือนสำนักงานประกันสังคมไหม หรือเอาแต่สร้างภาพไปวันๆ

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา

ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ

5 ส.ค.65 เวลา 13.49 น.

 

ล่าสุด นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า สปสช. เข้าใจเหตุผลของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เรื่องความแออัดจนต้องขอลดจำนวนประชากรที่ขึ้นทะเบียนปฐมภูมิ เพื่อความสะดวกในการให้บริการ และต้องขอขอบคุณโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ที่ได้ช่วยเหลือดูแลประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทองมายาวนานกว่า 12 ปี

 

นพ.จเด็จ กล่าวต่อไปว่า ได้รับจดหมายขอคืนประชากรจาก รพ.มงกุฎวัฒนะแล้ว ซึ่งตามกฎหมายถือเป็นการขอเลิกสัญญากับ สปสช. ซึ่งโดยสัญญาการบอกเลิกในกรณีนี้จะมีผลในวันที่ 1 ตุลาคม สปสช.จะมีกระบวนการในการย้ายสิทธิประชาชนหลังจากมีการยกเลิกสัญญา ในส่วนของประชากรสิทธิบัตรทองที่เคยขึ้นทะเบียนปฐมภูมิกับโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะนั้น สปสช. จะต้องหาหน่วยบริการอื่นมารับช่วงดูแลเพื่อไม่ให้สิทธิในการรับบริการขาดตอน 

สปสช. เตรียมโอนสิทธิบัตรทอง "รพ.มงกุฎวัฒนะ" ให้กทม.ดูแลแทน เริ่ม 1 ต.ค.นี้

ประกอบกับ กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยผู้ว่าชัชชาติ มีนโยบายพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิและเป็นเจ้าภาพระบบปฐมภูมิใน กทม สปสช.จึงจะได้หารือ กทม. ในการมอบหมายให้ศูนย์บริการสาธารณสุขในสังกัด เป็นเจ้าภาพรับดูแลผู้ใช้สิทธิกลุ่มนี้ต่อ โดยประชาชนจะถูกขึ้นทะเบียนหน่วยบริการปฐมภูมิกับศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านโดยอัตโนมัติ ทำให้สามารถเข้ารับบริการสุขภาพได้ต่อเนื่องไม่ขาดตอน 

 

อย่างไรก็ตาม หากไม่สะดวกไปรับบริการที่ศูนย์บริการสาธารณสุขที่ สปสช. เลือกให้ ก็สามารถย้ายหน่วยบริการปฐมภูมิในภายหลังได้เช่นกัน 

 

สปสช. เตรียมโอนสิทธิบัตรทอง "รพ.มงกุฎวัฒนะ" ให้กทม.ดูแลแทน เริ่ม 1 ต.ค.นี้
 

ขณะเดียวกัน สปสช. ยังมีนโยบายยกระดับบัตรทองให้เข้ารับบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ ดังนั้นในระหว่างช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ หากมีความจำเป็นหรือไม่สะดวกไปรับบริการที่ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่เคยขึ้นทะเบียนกับโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะก็ยังสามารถไปรับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิอื่น หรือ คลินิกชุมชนอบอุ่น ที่อยู่ในเครือข่าย สปสช. ได้อีกด้วย

 

"หากผู้ใช้สิทธิบัตรทองที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้มีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถโทรมาที่สายด่วน สปสช. 1330 ทางเฟสบุ๊คสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือไลน์ไอดี @nhso ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูลหรือประสานงานแก้ปัญหาให้ท่านอย่างไม่ชักช้า" นพ.จเด็จ กล่าว

 

สปสช. เตรียมโอนสิทธิบัตรทอง "รพ.มงกุฎวัฒนะ" ให้กทม.ดูแลแทน เริ่ม 1 ต.ค.นี้

นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า ในส่วนของข้อเรียกร้องของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะที่ต้องการให้ สปสช. เป็นตัวหลักในการประสานงานกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เพื่อขออนุมัติเพิ่มจำนวนเตียงจาก 440 เตียง เป็น 750 เตียง เพื่อให้สามารถรองรับคนไข้ส่งต่อมากขึ้นนั้น สปสช.ยินดีเป็นตัวกลางประสานงานกับ สบส. ในประเด็นนี้ เพราะการเพิ่มจำนวนเตียงมากขึ้น ก็จะทำให้ผู้ใช้สิทธิบัตรทองมีโอกาสได้เข้าถึงบริการเพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

 

อนึ่ง เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2565 พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊ค ระบุว่า เนื่องจากผู้ใช้บริการโรงพยาบาลมีจำนวนมากจนเกิดความแออัด ถึงแม้จะมีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่อีกมากกว่า 30,000 ตารางเมตร แต่จะเปิดให้บริการได้ในปลายปี 2566 ดังนั้น โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะจะลดความแออัดของผู้ใช้บริการดังนี้

 

  • 1. ส่งคืนผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่ขึ้นทะเบียนปฐมภูมิกับโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะทั้งหมด โดยจะส่งคืน สปสช.จำนวน 70,000 คน
  • 2. ลดจำนวนรับการส่งต่อผู้ป่วยสิทธิบัตรทองจากหน่วยต่างๆของ สปสช ลงกึ่งหนึ่ง จาก 300,000 คนคงเหลือ 150,000 คน
  • 3. ลดจำนวนผู้ประกันตนตามสิทธิประกันสังคมลงกึ่งหนึ่งจาก 120,000 คน คงเหลือ 60,000 คน  

 

ทั้งนี้จะเริ่มดำเนินการโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ปัญหาความแออัดในโรงพยาบาล เป็นภาระแก่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะเพียงฝ่ายเดียวอีกต่อไป

logoline