สุดเศร้า แม่นักร้องเมาท์เทน บี ร่ำไห้ เผยลูกชายมาวันแรกก็เสียชีวิต

ความคืบหน้า เหตุเพลิงไหม้ เมาท์เทนบี ผับ อ.สัตหีบ มีผู้เสียชีวิต 14 ราย และบาดเจ็บอีก 35 คน ล่าสุดวันนี้ (5 ส.ค.) ตลอดทั้งวัน ผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งที่อยู่ในเหตุการณ์ ทั้งผู้บาดเจ็บ ญาติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตบางส่วน ได้เดินทางมาเพื่อรับทรัพย์สินที่ได้ทิ้งไว้ระหว่างหนีตายกันไป โดยเฉพาะทั้งรถยนต์ รวมถึงได้มาลงทะเบียนข้อมูล เพื่อรับการช่วยเหลือเยียวยาจากเจ้าหน้าที่ด้วย

นางเปรมใจ แซ่อึ้ง มารดาของ นายฉัตรชัย ชื่นค้า นักร้องนำที่เสียชีวิต วันนี้เดินทางมาด้วยความเสียใจ เพื่อมาเอารถยนต์ที่ลูกชายจับมาเล่นดนตรีเมื่อคืนนี้ ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า ปกติลูกเล่นดนตรีอยู่แล้วแต่เล่นร้านอื่น เมื่อคืน มาเล่นแทนเพื่อนที่ร้านนี้ และมาที่ร้านเป็นครั้งแรก ซึ่งแม่มารู้ตอนตี 4 ว่าเกิดเหตุ โดยก่อนเกิดเหตุได้คุยกับน้องช่วงหัวค่ำว่า จะออกไปข้างนอก เวลาออกเขาจะไปประจำ แม่ก็ชิน หลังเกิดเหตุเพื่อนมาเล่าว่า ไฟขึ้นตรงจุดร้องเพลง และไวมาก ปกติจะร้องแต่ที่โล่ง แต่ถ้ามีงานก็รับหมด
 

นอกจากนี้ยังมีนักเที่ยวที่อยู่ในเหตุการณ์ แล้ววิ่งหนีตายออกมาได้เป็นคนแรก ๆ เล่าให้ฟังเลยว่า ตอนนั้นไปเข้าห้องน้ำ แล้วเห็นประกายไฟ ควัน หล่นลงมา จากเพดาน ตรงหน้าเวที แล้วก็มีเสียงตูม ตนเองเลยรีบวิ่งออกมาหนีตายออกมา ตอนนั้นเพลงเสียงดังมาก ก็วิ่งมาแล้วตะโกนบอกทุกคน แต่ไม่มีใครได่ยินเพราะเพลงเสียงดังมาก พอออกมาคนยังไม่ค่อยมีคนรู้ การ์ดยังตกใจว่า เกิดอะไรขึ้น พอออกมาได้แปปหนึ่ง ไฟก็ลุกมาตามหลัง คนหนีออกมายังมีไฟติดหลังกันออกมาเลย

เมื่อวานนี้ถือว่าคนเยอะ ตนมาเที่ยวบ่อยมาก ซึ่งทุกครั้งก็ไม่ได้สังเกตอะไร แต่คนมาเที่ยวก็รู้แค่ว่า ทางเข้าออกมีทางเดียว เพราะต้องตรวจบัตรก่อนเข้าไป จะมีการ์ดคอยดู และเท่าที่ตนเองมาเที่ยวบ่อยผับนี้เปิดถึงตี 3 สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียน ทำให้กลัวการเที่ยว ส่วนตัวไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพิ่งเจอครั้งแรก และมองว่า ถ้าเปิดใหม่อีกครั้ง ก็ควรมีการแจ้งทางหนีไฟให้รับทราบว่ามีทางไหนออกได้บ้าง

ขณะที่ น้องสาวของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสคนหนึ่งระบุว่า เมื่อคืนเป็นวันเกิดพี่ชาย จึงได้มากินข้าวฉลองกัน แล้วมาเที่ยวต่อ มาได้ประมาณ 20 นาที ก็เกิดเพลิงไหม้ พี่ชายไฟคลอกทั้งตัว ส่วนพี่สะใภ้ เพื่อนดึงออกมาทันแต่ก็ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งอาการพี่ชายตอนนี้ถูกไฟคลอกผิวหนังไป 95% เหลือ 5% ช่วงใบหน้าไม่โดนมาก แต่โอกาสรอดมีประมาณ 1% สภาพเดิมจำไม่ได้แล้ว ซึ่งครอบครัวก็ให้กำลังใจให้สู้ 

และพอมาได้มาดูที่เกิดเหตุ ตนเองเคยเข้าผับนี้หนึ่งครั้ง แล้วรู้สึกแออัดมาก ทางเข้าออกทางเดียว ไม่มีระบายอากาศ ซึ่งในความคิดของตนเองไม่โอเคเลย ไฟดับก็ไม่มีไฟฉุกเฉิน การจัดโต๊ะต่าง ๆ ก็ไม่ค่อยสะดวกเพราะวางโต๊ะแน่นติดกัน ทั้งนี้ทางครอบครัวมองว่า อยากให้เจ้าของผับออกมารับผิดชอบ ด้วยการขอโทษ ออกไปเยี่ยมผู้ประสบเหตุ เพื่อให้ดูว่า คุณยอมรับผิดและเสียใจ และจะมีมาตรการเยียวยาอย่างไรควรจะพูดให้ชัดเจน

นอกจากนี้ยังมี พ่อแม่ของ น.ส.สวิตตา จันทา อายุ 39 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นแคชเชียร์ร้าน ที่เดินทางมาจากนครราชสีมา เพื่อมาเชิญทำการจุดธูปวิญญานลูกสาว โดยพ่อบอกสั้น ๆ ว่า ลูกสาวมาทำงานที่นี่เพื่อรอไปทำงานต่างประเทศ ตอนนี้ครอบครัวยังไม่ได้พบศพเนื่องจากส่งไปสถาบันนิติเวชแล้ว แต่คาดว่าน่าจะเป็นบุตรสาว เพราะจำรอยสักรวมถึงมีรายชื่อเป็นผู้เสียชีวิต