เหยื่อไฟไหม้เมาท์เทนบี ผับ 16 คนอาการหนัก ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา

ความคืบหน้า เหตุเพลิงไหม้ เมาท์เทนบี ผับ อ.สัตหีบ มีผู้เสียชีวิต 14 ราย และบาดเจ็บอีก 35 คน ล่าสุดวันนี้ (5 ส.ค.)เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ได้มีการแถลงข่าวคืบหน้าการรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว 

นาวาเอกหญิงนงลักษณ์ สิงหโกวินท์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการรักษา กล่าวว่า เมื่อคืนนี้หลังทางโรงพยาบาลได้รับแจ้งเหตุ ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปปฏิบัติการที่จุดเกิดเหตุทันที และพบมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทางโรงพยาบาลจึงได้ระดมทีมแพทย์ และกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาเร่งรักษาผู้บาดเจ็บ มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 27 คน ที่ถูกส่งเข้ามาที่โรงพยาบาล ได้ทำการรักษาและให้กลับบ้านได้จำนวน 8 คน และส่งต่อผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลชลบุรี 1 คน โรงพยาบาลระยองอีก 1 คน คงเหลือผู้ป่วยที่รับเข้ารักษาในระบบผู้ป่วยใน (แอดมิท) จำนวน 17 คน 

 นาวาเอกอนุชา ลิขิตวงษ์ หัวหน้ากลุ่มงานศัลยกรรม เปิดเผยรายละเอียดว่า ในจำนวนผู้ป่วยทั้ง 17 คน นั้น ล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น. ได้ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน คือ นายสุเทพ มงคลแก้ว อายุ 33 ปี โดยผู้เสียชีวิตมีภาวะสำลักควัน และมีเปอร์เซ็นต์ของแผลไฟไหม้หรือดีกรีความลึก (Degree of burn wound) ที่สูงกว่า 90% ซึ่งการมีเปอร์เซ็นต์แผลไฟไหม้สูง ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตมากอยู่แล้ว ทางโรงพยาบาลได้ให้การรักษาอย่างเต็มที่แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้

ส่วนผู้ป่วยอีก 16 รายนั้น ทั้งหมดยังคงมีอาการหนัก ต้องรักษาด้วยการใส่เครื่องช่วยหายใจและยังไม่รู้สึกตัว โดยแนวทางของการรักษาจะต้องดูแลบาดแผลไฟไหม้ ให้อาหารและน้ำ สิ่งสำคัญคือต้องเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของเปอร์เซ็นต์แผลไฟไหม้ที่อาจจะสูงขึ้นได้อยู่ตลอดเวลา เนื่องจากผู้ป่วยที่มีบาดแผลไฟไหม้จะเกิดการสูญเสียน้ำ และมีโอกาสที่แผลไฟไหม้จะเกิดการติดเชื้อได้ โดยเฉลี่ยตอนนี้ผู้ป่วยทั้ง 15 คน มีเปอร์เซ็นต์แผลไฟไหม้ที่สูงเฉลี่ยเกินกว่า 60% 

รวมถึงขณะนี้มีผู้ป่วยจำนวน 2 คน  ที่ทางโรงพยาบาลเตรียมจะส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์และโรงพยาบาลศิริราช เนื่องจากมีเปอร์เซ็นต์ของแผลไฟไหม้อยู่ในระดับสาม คือมากกว่า 80% ซึ่งศักยภาพของโรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์จะมีความพร้อมมากกว่า และผู้ป่วยควรได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด

อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวทางการรักษาของผู้ป่วยที่มีแผลไฟไหม้ จะเป็นการรักษาระยะยาว โดยหากผ่านจุดที่อาการวิกฤตเข้าสู่ภาวะคงที่แล้ว ก็ต้องมารักษาบาดแผลกันต่อ หากบาดแผลเข้าไปลึกก็จะต้องมีการตัดเนื้อตาย หากเนื้อมีการสูญเสียเยอะ ก็ต้องหมุนเนื้อมาปิดรักษา นอกจากนี้ ยังต้องระวังเกี่ยวกับเรื่องของภาวะไตวาย จากการที่กล้ามเนื้อเกิดการแตกสลายด้วย