จากกรณีโศกนาฏกรรม เพลิงโหมไหม้สถานบันเทิง MOUNTAIN B ตั้งอยู่ปากซอยสัตหีบสุขุมวิท 99 (เขาหมอน) ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 41 ราย และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 13 ราย และต่อมาเสียชีวิตเพิ่มที่โรงพยาบาลอีก 1 ราย
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวเปรียบเหมือนการซ้ำรอยเหตุโศกนาฏกรรม “ไฟไหม้ซานติก้าผับ” พร้อมขอให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ช่วยดูผับและสถานบันเทิง
“ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย “ซานติก้าผับ” เมื่อคืนเกิดเหตุสลด ไฟไหม้ผับ Mountain B ที่สัตหีบ ชลบุรี มีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 รายผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกท่านครับ ว่าแล้วสักวันประวัติศาสตร์ต้องซ้ำรอย “ซานติก้าผับ” เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ไฟไหม้ในคืนปีใหม่ตายเจ็บร่วมร้อย”
วันนี้กลับมาเกิดเรื่องอีกด้วยเหตุเดิมๆ คือ นึกอยากเปิดผับ ก็เปิด ไม่อยากจะซ้ำเติม แต่ขั้นตอนป้องกันต้องมี
1. ทางเข้าออก ทางหนีไฟ ต้องมีหลายทาง
2. ได้รับอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง จากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
3. ต้องจำกัดจำนวนคนเข้าตามขนาดพื้นที่ที่รับไหว หากคนเกินก็ไม่ให้เข้า จนกว่าจะมีคนออก
“ขั้นตอนง่ายๆ ไม่ทำ ปล่อยปละละเลย ข้างในนอกจากมืดแล้วยังเสียงดัง มีทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ชักสงสัยเหมือนกันว่าใน กทม. บรรดาผับดังของทุนจีนทั้ง เอกมัย ทองหล่อ อาร์ซีเอ มีทางออกกี่ทาง มีใบอนุญาตก่อสร้าง ใบอนุญาตผับ-บาร์ ถูกต้องไหม?
"อยากให้ กทม. ยุคของท่านชัชชาติวิ่งไปดูหน่อยครับ ผับซานติก้าเมื่อ 10 กว่าปีก่อนยังหลอกหลอนไม่หายคนเข้าเป็นพัน แต่มีทางออกทางเดียว เพราะไม่ได้ขอเป็นผับแต่ต้น ไหนจะใบอนุญาตตำรวจ คงให้เป็นแค่ร้านอาหาร แต่เปิดกันมั่วเนียนๆ เป็นผับทุกที่คงไม่ต้องร้อง Traffy Fondue เพราะตอนนี้ กทม. เฉพาะตอบข้อร้องเรียน ก็ไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว”