อีกหนึ่งประเด็นร้อน หลังจากที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้มีการโพสต์ข้อความว่า
“ผมไม่เชื่อว่าผู้กำกับโจ้จะสำนึกผิดจริง เพราะเดือนก่อนยังขู่อาฆาตผมจากในเรือนจำ ว่าที่ต้องติดคุก เพราะผมเปิดคลิปนาทีสังหาร แต่ที่ผู้กำกับโจ้ไม่อุทธรณ์ และเยียวยาโจทก์ร่วม เพราะต้องการให้คดีถึงที่สุด เพื่อเข้าหลักเกณฑ์ได้รับอภัยโทษ หลายคนสงสัยว่าแบบนี้ผู้กำกับโจ้จะติดคุกจริงกี่ปี เป็นคนอื่นคงจะมี 15 ปี แต่ระดับผู้กำกับโจ้ผมว่าคงหวังว่าจะติดซัก 5-7 ปี ก็ออกมาลัลล้าได้แล้ว”
ต่อมาทางด้าน นายษิทรา ได้ให้สัมภาษณ์ในประเด็นดังกล่าวอีกครั้งว่า ไม่ปักใจเชื่อ ว่า พันตำรวจเอก ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ จะสำนึกผิดและยอมรับโทษทั้งหมด เพราะช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ทนายตั้มได้ทราบจากคนรู้จัก ว่า อดีต ผกก.โจ้ได้พูดถึงตนเองภายในเรือนจำ ว่า เป็นต้นเหตุและสาเหตุที่ทำให้เขาต้องติดคุก เนื่องจาก ทนายตั้มเป็นคนนำคลิปเหตุการณ์ขณะที่อดีต ผกก.โจ้ใช้ถุงดำคลุมศีรษะทรมานผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด จนเป็นที่วิพากย์วิจารณ์ในสังคม และยังบอกอีกว่า ถ้าตนเองออกจากเรือนจำมาได้ก็จะมาจัดการ
ระหว่างการให้สัมภาษณ์ นายษิทรา ยังได้มีการแสดงแชทลับ พร้อมกับอ่านให้สื่อมวลชนฟังว่า แชทลับที่ตนได้มานั้น มีการบอกว่า อดีตผกก.โจ้นั้น อยู่ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม ว่า อยู่ภายในนั้นอย่างสุขสบายและยังมีอำนาจที่ทำให้มีการสั่งย้ายเจ้าหน้าที่เรือนจำ ไปจำนวน 4 นายอีกด้วย"
ทนายตั้ม ยังได้ตั้งข้อสังเกตอีกว่า การที่ อดีตผกก.โจ้ ยอมรับและสำนึกผิดนั้น เป็นวิธีที่ทำให้ตัวเขานั้นได้รับการพิจารณาในการลดโทษ และถ้ามีการพิจารณาเป็นนักโทษชั้นดี ก็จะได้รับการลดหย่อนโทษอีก ซึ่งคาดว่า อาจจะติดไม่นานก็จะสามารถออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว
ขณะที่ ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต ได้โทรศัพท์มาขอบคุณทนายตั้ม ที่มาเผยคลิปดังกล่าว จนสามารถดำเนินคดีกับ อดีตผกก.โจ้ และยืนยันตั้งแต่เกิดเรื่อง ทางครอบครัวของอดีต ผกก.โจ้นั้นไม่เคยติดต่อมาหาตนเองเลย พร้อมกันนี้ยังได้ฝากข้อความบอกไปยัง อดีตผกก.โจ้ ว่าอยู่ภายในเรือนจำ อยากให้ศึกษาธรรมะให้มากๆ จะได้ลดความโกรธแค้น และขอให้สำนึกผิดจากใจจริง
ก่อนหน้านี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า ผมไม่เชื่อว่าผู้กำกับโจ้จะสำนึกผิดจริง เพราะเดือนก่อนยังขู่อาฆาตผมจากในเรือนจำ ว่าที่ต้องติดคุกเพราะผมเปิดคลิปนาทีสังหาร แต่ที่ผู้กำกับโจ้ไม่อุทธรณ์ และเยียวยาโจทก์ร่วม เพราะต้องการให้คดีถึงที่สุด เพื่อเข้าหลักเกณฑ์ได้รับอภัยโทษ หลายคนสงสัยว่าแบบนี้ผู้กำกับโจ้จะติดคุกจริงกี่ปี เป็นคนอื่นคงจะมี 15 ปี แต่ระดับผู้กำกับโจ้ผมว่าคงหวังว่าจะติดซัก 5-7 ปี ก็ออกมาลัลล้าได้แล้ว
ทั้งนี้ นางจันทา อุทธนผล มารดาของพันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ "ผู้กำกับโจ้" พร้อมนางสาวธนัญญา อุทธนผล น้องสาวของผู้กำกับโจ้ เดินทางไปยื่นคำร้องขอถอนอุทธรณ์ต่อสู้คดี ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง หลังจากที่ศาลมีคำพิพากษาประหารชีวิตผู้กำกับโจ้ คดีคลุมถุงดำทรมานผู้ต้องหายาเสพติดเสียชีวิตคาโรงพัก และศาลได้ลดโทษให้ผู้กำกับโจ้เหลือจำคุกตลอดชีวิต
โดย มารดาอดีตผกก.โจ้ ระบุว่า ลูกชายสำนึกในการกระทำผิดดังกล่าว และรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ขาดความรอบคอบในการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย จึงไม่ประสงค์ที่จะต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาอีกต่อไป โดยให้โทษเป็นไปตามที่ศาลพิพากษาไว้ พร้อมขอรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้ทำไปและจะจ่ายเงินเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิตตามที่ได้มีการตกลงกันไว้
นอกจากนี้ ทนายคนดังอีกท่านอย่างทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้โพสต์ถึงกรณีดังกล่าวเช่นเดียวกัน โดยมีใจความระบุ ว่า
แต่...ผมก็ไม่เชื่อว่า ที่อดีตผู้กำกับโจ้ ไม่อุทธรณ์ เพราะสำนึกผิด จริง ๆ
คนสำนึกผิดจริง คงไม่แถ ต่อสู้คดี ทั้ง ๆ ที่มีพยานหลักฐานชัดเจนขนาดนั้น
ผมเชื่อว่า เขาคงรู้ หรือ คาดหมายได้ว่า จะมีพระราชทานอภัยโทษเร็ว ๆ นี้
เพื่อให้มีสิทธิรับพระราชทานอภัยโทษ จึงต้องยอมเป็นนักโทษเด็ดขาดโดยไม่เต็มใจ มันคือ แผน 2
หลังจากไม่รอดแผน 1
ล่าสุด ชาวเน็ตร่วมแสดงความคิดเห็นบนเพจของ ทนายตั้ม ในประเด็นนี้จำนวนมาก คอข่าวชาวเนชั่นออนไลน์ สามารถไปติดตามอ่านได้เเบบเต็มๆ
ขอขอบคุณ ต้นฉบับโพสต์ข่าวจาก เพจ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ