กพท. เตือนสายการบินเลี่ยงเส้นทางรอบไต้หวัน หลังจีนเดินหน้าซ้อมรบ

ยังคงเป็นปมร้อนระดับโลกกรณี แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนกรุงไทเปของไต้หวัน เมื่อคืนที่ผ่านมา (2 ส.ค.) อย่างไม่เป็นทางการ ท่ามกลางคำเตือนและท่าทีกดดันข่มขู่ของประเทศจีน ท่ามกลางการจับตาของทั่วโลกว่า ทางการจีนจะมีมาตราการตอบโต้เหตุการณ์ครั้งนี้อย่างไร 

ซึ่งต่อมาทางการจีนโดย  หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ออกแถลงการณ์ ระบุว่า เป็นการกระทำที่อันตรายและโง่เขลา และออกมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าต่อไต้หวันเป็นการตอบโต้แล้ว (อ่านข่าว)  

ทั้งนี้ แม้ เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นไต้หวัน (17.00 เวลาประเทศไทย) แนนซี เพโลซี จะได้ขึ้นเครื่องบินโบอิ้ง C-40C จากสนามบินไทเปซงซาน เพื่อเดินทางออกจากไต้หวัน และมุ่งหน้าไปยังกรุงโซลของเกาหลีใต้เป็นจุดหมายถัดไป

แต่ดูเหมือนว่า บรรยากาศความมาคุระหว่าง จีน และ ไต้หวัน จะไม่ได้คลี่คลายลงแต่อย่างใด เพราะทางการจีนยังมีแผนจัดการซ้อมรบที่ใช้กระสุนจริง ทั้งทางน้ำและทางอากาศ ในบริเวณทะเล 6 จุดใกล้ไต้หวันช่วงวันที่ 4 - 7 ส.ค. นี้ (อ่านข่าว)  

ล่าสุด สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. ได้โพสต์แจ้งเตือนผ่านเพจเฟซบุ๊ก CAAT - The Civil Aviation Authority of Thailand แจ้งเตือนสายการบินต่าง ๆ ที่จะใช้เส้นทางรอบไต้หวัน โดยระบุว่า 

CAAT แจ้งสายการบินเลี่ยงเส้นทางบินเหนือพื้นที่รอบไต้หวัน

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้แจ้งสายการบินสัญชาติไทยที่จะเดินทางเข้าและออกจากประเทศไทยในระยะนี้ ให้เลี่ยงเส้นทางบินเหนือบริเวณน่านฟ้ารอบ ๆ ไต้หวัน หลังจากที่สาธารณรัฐประชาชนจีนได้ออกประกาศผู้ทำการในอากาศ (NOTAM) พื้นที่ซ้อมรบ (AIRSPACE BLOCKED) และได้เตือนสายการบินที่ดำเนินการในเอเชีย ให้หลีกเลี่ยงการบินรอบ ๆ ไต้หวัน เนื่องจากจีนมีแผนดำเนินการซ้อมรบ ทางทหารในบริเวณดังกล่าว ซึ่งถูกกำหนดให้น่านฟ้าเหนือพื้นที่ซ้อมรบเป็น “เขตอันตราย”

ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติการบินของผู้ดำเนินการเดินอากาศไทย CAAT จึงได้ขอให้หลีกเลี่ยงทำการบินผ่านเส้นทางบริเวณดังกล่าว และปฏิบัติตาม NOTAM ของจีนอย่างเคร่งครัด รวมทั้งติดตามสถานการณ์และประกาศ NOTAM ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง