แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และคณะเดินทางด้วยเครื่องบินออกจากสนามบินในกรุงไทเปเมื่อเวลาราว 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นหรือ 17.00 น. ตามเวลาไทย หลังจากแวะเยือนไต้หวันโดยไม่ได้แจ้งอย่างเป็นทางการล่วงหน้า โดยเดินทางถึงเมื่อคืนวันอังคาร และเธอมีกำหนดเดินทางต่อไปยังเกาหลีใต้และญี่ปุ่นตามแผนการเดินสายเยือนเอเชีย
ในระหว่างการเยือนไต้หวันนาน 19 ชม. เพโลซีพบหารือกับประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน และให้ความมั่นใจว่า สหรัฐฯ อยากให้ไต้หวันยังคงมีเสรีภาพและความมั่นคง และจะไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนในเรื่องนี้ และเมื่อถูกถามถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจของไต้หวันจากการตอบโต้ของจีน เธอบอกว่า สหรัฐฯ พร้อมเปิดประตูเพื่อเพิ่มการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และไต้หวันมากขึ้น
นอกจากนี้เธอยังพบปะกับสมาชิกสภานิติบัญญัติของไต้หวัน ตามด้วยการพบปะกับนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยที่พิพิธภัณฑ์สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เช่น หล่ำ อิง-กี่ เจ้าของร้านหนังสือชาวฮ่องกง ที่อพยพไปอยู่ไต้หวันในปี 2562 และลี หมิง-เจ๋อ นักเคลื่อนไหวชาวไต้หวัน ที่ถูกจำคุกในจีน 5 ปีก่อนได้รับการปล่อยตัว
การเยือนของเธอทำให้เกิดเสียงประณามจากจีนและการซ้อมรบเพื่อเป็นการตอบโต้ รวมทั้งออกมาตรการระงับการนำเข้าสินค้าประเภทอาหารหลายชนิดจากไต้หวัน
หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศ บอกกับผู้สื่อข่าวขณะร่วมการประชุมอาเซียนที่กรุงพนมเปญของกัมพูชาว่า การเยือนของเพโลซีเป็นเรื่องตลก สหรัฐฯ ใช้ประชาธิปไตยบังหน้าในการละเมิดอธิปไตยของจีน และไช่ อิง-เหวิน ของไต้หวัน และพวกพยายามพึ่งพาอำนาจของสหรัฐฯ เพื่อแสวงหาเอกราช ซึ่งเป็นการทรยศต่อผลประโยชน์ของชาติจีน และการกระทำที่เป็นการถอยหลังเข้าคลองไม่อาจเปลี่ยนแปลงฉันทามติของนานาชาติทีว่า มีเพียงจีนเดียวในโลก และพวกเขาไม่อาจเปลี่ยนแปลงกระแสการรวมชาติระหว่างแผ่นดินใหญ่และไต้หวันได้ นอกจากนี้เขาเตือนด้วยว่า คนที่เล่นกับไฟ มักเจอจุดจบไม่ดี และคนที่สร้างความขุ่นเคืองให้จีนต้องได้รับการลงโทษ