จีนคว่ำบาตรการค้าไต้หวัน โวยสหรัฐฯ ทำเรื่องโง่เขลา

หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ออกแถลงการณ์ที่เผยแพร่ในวันนี้ (3 ส.ค.) ขณะอยู่ร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน+3 ที่กรุงพนมเปญของกัมพูชา  หลังจากแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางถึงกรุงไทเปของไต้หวันเมื่อคืนวันอังคารเพื่อแวะเยือนอย่างไม่เป็นทางการ

เขาระบุในแถลงการณ์ว่า “สหรัฐฯ เป็นฝ่ายยั่วยุจีนก่อนในประเด็นไต้หวัน และละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของจีนอย่างโจ่งแจ้ง”  พร้อมทั้งบอกว่า การนำประเด็นไต้หวันมาเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ต่อภูมิภาคนี้ ซึ่งสร้างความตึงเครียดและการเผชิญหน้า เป็นการสวนกระแสของการพัฒนาในภูมิภาค และตรงข้ามกับความคาดหวังของประชาชนในเอเชียแปซิฟิก และ “สิ่งนี้เป็นเรื่องอันตรายและโง่เขลา”

ทางการจีนยังเรียกนิโคลัส เบิร์น เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำจีนเข้าพบในคืนวันอังคารเพื่อแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการเยือนไต้หวันของเพโลซี และฉิน กัง เอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า เขายื่นประท้วงทางการทูตต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติและกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ แล้ว

เซียะ เฟิง รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของจีน เรียกร้องให้สหรัฐฯ ดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อเลี่ยงผลกระทบจากการเยือนดังกล่าว และเตือนว่า “การกระทำของสหรัฐฯ ผิดมหันต์ และผลลัพธ์ก็ย่อมร้ายแรงที่สุด จีนไม่ทนนิ่งเฉยแน่”

ขณะเดียวกันรัฐบาลจีนประกาศมาตรการคว่ำบาตรทางการค้าต่อไต้หวันเป็นการตอบโต้ โดยประกาศระงับการนำเข้าผลไม้ตระกูลส้ม ปลาดาบและปลาสีกุนแช่แข็งจากไต้หวัน นับตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค. เป็นต้นไป และระงับการส่งออกทรายให้ไต้หวัน ตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.เช่นกัน ก่อนหน้านั้นจีนประกาศเมื่อวันจันทร์ห้ามนำเข้าสินค้าประเภทอาหาร 2,066 รายการจากผู้ส่งออกของไต้หวันกว่า 100 ราย เพิ่มเติมจากการห้ามนำเข้าสัปปะรด ขี้ผึ้ง น้อยหน่า และปลาเก๋าก่อนหน้านี้

จีนเป็นตลาดส่งออกสินค้ารายใหญ่ที่สุดและคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไต้หวัน และมูลค่าการค้าสองฝ่ายเพิ่มขึ้น 26% เป็น 328,300 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว