3 สิงหาคม 2565 สถานการณ์ “ฝีดาษลิง” ในประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยันรายที่สาม โดย กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 3 เป็นชาย อายุ 25 ปี สัญชาติเยอรมนี เดินทางเข้าไทยเมื่อวันที่ 18 ก.ค.65 ที่ จ.ภูเก็ต เบื้องต้นยังไม่พบผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง ขณะที่กรมการแพทย์เผยพบผู้ป่วยต้องรับรักษาในโรงพยาบาลทุกราย
ล่าสุด กรมการแพทย์ ได้เปิดแนวทางวินิจฉัยดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อกรณี ฝีดาษลิง หรือ ฝีดาษวานร สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในโรงพยาบาลทุกระดับ
ทั้งนี้ ในแนวทางดังกล่าว ระบุถึงการวินิจฉัย ดูแลรักษาผู้ป่วยสงสัยในโรงพยาบาลระดับต่างๆ ทั้งโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล รวมทั้งแนวทางการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อ การป้องกันบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งจะมีแนวทางการเลือกใช้อุปกรณืป้องกันร่างกายส่วนบุคคล สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลรักษาผู้ป่วย เป็นต้น
กรมการแพทย์ เผยแพร่แนวทางปฏิบัติการวินิจฉัย การดูแลรักษาและการป้องกันการติดเชื้อ กรณีโรคฝีดาษวานร (Monkeypox) ฉบับ วันที่ 31 กรกฎาคม 2565
โรคฝีดาษลิง หรือ ฝีดาษวานร (Monkey Pox)
ระยะฟักตัว ฝีดาษลิง 7 - 21 วัน
อาการและอาการแสดง ผู้ป่วยมักเริ่มด้วยอาการไข้ และผื่น จะเริ่มจากตุ่มแดง ประมาณ 5-7 วันหลังรับเชื้อ และตุ่มจะเปลี่ยนเป็นตุ่มน้ำ ตุ่มหนอง และแห้งเป็นสะเก็ด ตุ่มมีจำนวนมากน้อยตาม
ความรุนแรงของโรค และการตอบสนองของผู้ป่วย รวมระยะเวลาประมาณ 2 ถึง 4 สัปดาห์
การแพร่กระจายเชื้อและการติดต่อส่วนใหญ่โดยการสัมผัสผื่นผู้ป่วยโดยตรงในระยะแพร่เชื้อ หรือสารคัดหลั่ง
จากผู้ป่วยยืนยัน อาจมีการติดต่อทางละอองฝอยได้โดยเฉพาะหากมีการทำหัตถการที่ทำให้เกิดละอองฝอย
ขนาดเล็ก (contact transmission & droplet transmission)
ทั้งนี้ ในแนวทางดังกล่าวระบุถึงการวินิจฉัย ดูแลรักษา ผู้ป่วยสงสัยโรคฝีดาษลิง รวมทั้งแนวทางการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อ การป้องกันบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข มีดังนี้ (ตามภาพ)..