"พีระพันธุ์"โชว์วิสัยทัศน์ขอเป็นพรรคการเมืองน้ำดีชูแก้ความเหลื่อมล้ำ

เมื่อวันที่ 8 ส.ค.65  "นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ภายหลังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค ว่า ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ได้เข้าร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ กว่าจะมาถึงวันนี้พวกเราผ่านการทำงานการเมืองกันมามาก และพวกเรามีความคิดทางการเมืองกันมาหลายช่วงเวลา ว่าเราอยากทำพรรคการเมืองอย่างที่ประชาชนอยากให้มี อยากให้เป็น วันนี้ตนขอให้ทุกคนในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เรากำลังจะทำพรรคการเมืองที่ประชาชนอยากให้มี อยากให้เป็น ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย

ยืนยันว่ามาทำงานเพื่อประชาชน ไม่ได้เข้ามาเล่นเกมการเมือง และแสวงหาอำนาจบารมีทางการเมือง ที่สำคัญไม่ทะเลาะเพื่อแย่งตำแหน่ง แต่จะทะเลาะกับความเหลื่อมล้ำของประชาชน ทำสังคมให้เท่าเทียมกัน และจะทะเลาะกับสิ่งที่ทำให้ประชาชนขาดโอกาสในการดำรงชีวิตอย่างเท่าเทียมเสมอภาค 

"ผมขอเปิดใจในวันนี้ว่า ผมไม่ได้ตั้งใจเข้ามาเล่นการเมือง ผมเป็นข้าราชการผู้พิพากษา เมื่อ 36 ปีที่แล้วเริ่มทำงานเป็นผู้พิพากษา และเห็นแม่ที่ยากจนต้องติดคุกเพราะไม่มีซื้อนมให้ลูกกินต้องไปขโมย ผมเห็นชาวนาชาวบ้านต้องถูกยึดรถที่ใช้ทำนา ตรงนี้คือจุดเริ่มต้นที่ผมตัดสินใจทิ้งตำแหน่งผู้พิพากษา เพื่อเข้ามาอยู่ในแวดวงการเมือง ไม่ได้มาเพราะผมอยากเป็นใหญ่ทางการเมือง หรืออยากเป็นผู้มีอำนาจบารมีทางการเมือง แต่ผมอยากมีอำนาจทางการเมืองเพื่อช่วยเหลือประชาชน และผมก็ปฏิบัติตนอย่างดี"

"ตอนที่ผมจะลาออกจากการเป็นผู้พิพากษา มีหลายคนมาบอกกับผมว่าโง่หรือเปล่า มีแต่คนอยากเป็นผู้พิพากษา ผมตัดสินใจลาออกและเข้าสู่เวทีทางการเมืองด้วยความตั้งใจว่าผมไม่ได้มาเล่นการเมือง แต่ผมมาทำงานให้บ้านเมือง และตั้งใจมาทำงานให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ผมเดินไหว้ประชาชน 30 ปี และ 39 ปีที่อยู่บนถนนทางการเมือง ตลอด 30 ปี บนเส้นทางทางการเมืองได้ช่วยเหลือประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยอาศัยอำนาจทางการเมือง ตอนเป็นรัฐมนตรีมีชาวนาถูกโกงข้าวฆ่าตัวตาย ผมเห็นผมก็ได้ช่วยเหลือ"

"นายพีระพันธุ์" กล่าวอีกว่า ขอให้สมาชิกมั่นใจว่า พวกเราทุกคนจะไม่ทำให้ผิดหวัง วันนี้เป็นวันแรกที่เราได้มีโอกาสพบกัน และคงจะมีโอกาสได้พบกันเรื่อยๆ ขอให้มั่นใจว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ภายใต้การบริหารจัดการของพวกเรา จะพยายามสร้างหลักของประเทศ ให้เป็นพรรคหลักของประเทศ และเข้าสู่สนามเลือกตั้งครั้งหน้าด้วยความมั่นใจ มั่นคงเด็ดเดี่ยว ทั้งนี้การที่ตนเข้ามาไม่ได้อยากจะเป็นรัฐมนตรี แต่เข้ามาทำเพื่อประชาชน