ผลศึกษาชี้ ต้นตอโควิดอยู่ที่ "ตลาดค้าสัตว์อู่ฮั่น"

ผลการศึกษาที่เคยถูกเผยแพร่ทางออนไลน์ ขณะเตรียมพิมพ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และเพิ่งผ่านขั้นตอน Peer Review หรือการตรวจทานผลงานโดยผู้เชี่ยวชาญในระดับเดียวกันหรือมากกว่า ที่ไม่ใช่ผู้ผลิตผลงาน ได้รับการเผยแพร่แล้วในวารสาร Science เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม โดยฉบับหนึ่งเป็นงานวิจัยร่วมของนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลก ที่ใช้เครื่องมือจัดทำแผนที่กับรายงานในโซเชียลมีเดียในการวิเคราะห์เชิงพื้นที่และสิ่งแวดล้อม โดยได้ข้อสรุปว่าถึงแม้ "สถานการณ์ที่แน่นอนจะยังคงไม่ชัดเจน" แต่ไวรัสอาจมีอยู่ในสัตว์ที่มีชีวิตที่ขายในตลาดอาหารทะเลหัวหนาน ของเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีน เมื่อช่วงปลายปี 2562 และการที่นำสัตว์เหล่านี้มาอยู่ใกล้กันทำให้ง่ายต่อการแลกเปลี่ยนเชื้อโรค 

แม้ผลการศึกษาไม่ได้ระบุถึงขั้นที่ว่าพวกสัตว์อาจจะป่วยด้วย แต่ นักวิจัยก็สรุปว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรก ๆ รวม 8 คน ที่ถูกพบเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ปี 2562 มาจากด้านตะวันตกของตลาด ที่เป็นแหล่งขายสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แผงค้าสัตว์มีชีวิตหรือสัตว์ที่เพิ่งถูกฆ่าที่ตั้งอยู่ติดกัน 5 แผง คือสิ่งที่บ่งชี้ถึงการติดต่อสู่มนุษย์ และพบด้วยว่าสัตว์หลายชนิดมีไวรัสที่แตกต่างกันในร่างกายถึง 2 ชนิด 

ไมเคิล โวโรบีย์ หัวหน้าภาควิชานิเวศวิทยาและชีววิทยาวิวัฒนาการ ของมหาวิทยาลัยแอริโซนาของสหรัฐฯ ที่เป็นผู้ร่วมเขียนงานวิจัยชิ้นนี้ระบุว่า นี่เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าไวรัสเริ่มแพร่กระจายในคนที่ทำงานที่ตลาด จากนั้นได้เริ่มแพร่กระจายไปยังชุมชนท้องถิ่นโดยรอบ เมื่อพ่อค้าแม่ค้าเข้าไปในร้านค้าในท้องถิ่นก็เอาเชื้อไปติดคนที่ทำงานอยู่ตามร้านเหล่านี้ 

ส่วนผลการศึกษาอีกชิ้นใช้การวิเคราะห์ระดับโมเลกุล และพบว่า โคโรนาไวรัส SARS-CoV-2 ข้ามจากสัตว์มาสู่คน และยังพบว่าโคโรนาไวรัสเวอร์ชั่นแรกสุดอาจมีรูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งนักวิจัยตั้งชื่อว่า A กับ B ที่ข้ามสายพันธุ์ไปสู่มนุษย์อย่างน้อย 2 ครั้ง ซึ่งสันนิษฐานว่าการข้ามสายพันธุ์เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ปี 2562 และเป็นสายพันธุ์ B เนื่องจากพบสายพันธุ์นี้ในคนที่เกี่ยวข้องโดยตรงตลาดอาหารทะเล ส่วนสายพันธุ์ A ข้ามสายพันธุ์หลังเกิดการติดเชื้อสายพันธุ์ B หลายสัปดาห์หรือหลายวันหลังจากนั้น โดยสายพันธุ์ A ถูกพบในตัวอย่างจากคนที่อาศัยหรืออยู่ใกล้กับตลาด