เจ้าของร้านเครื่องเสียงแอบขายปืนเถื่อน พลาดลั่นใส่หัวดับคาที่

พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผู้กำกับการ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีชายถูกยิงเสียชีวิตภายในร้านติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์ ศราวุฒิ คาร์ออดิโอ ริมถนนกิ่งแก้ว ก่อนถึงแยกศูนย์ราชการ ต.บางพลีใหญ่ จ.สมุทรปราการ โดยที่เกิดแหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น 2 คูหา ซึ่งเป็นร้านรับติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์และฟิล์ม ภายในห้องประกอบตู้ลำโพงชั้นล่างด้านหลัง พบร่าง นายศราวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี เจ้าของร้าน เสียชีวิตอยู่กับพื้น สภาพศพพบรูกระสุนปืนเข้าที่ท้ายทอยด้านหลังศีรษะ 1 นัด กระสุนฝังใน โดยมีอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ แบบแม็กกาซีน ขนาด .380 วางอยู่ที่โต๊ะ พร้อมเครื่องกระสุนขนาดเดียวกันจำนวน 5 นัด เจ้าหน้าที่จึงจัดเก็บลายนิ้วมือแฝงและ DNA ในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่งชันสูตรที่นิติเวช โรงพยาบาลรามา สมุทรปราการ ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายนิกร (สงวนนามสกุล) ชาวอุตรดิตถ์ 

จากการสอบสวน นายนิกร ให้การว่า ตนกับผู้ตายรู้จักกันมาก่อน วันนี้ผู้ตายนัดให้มาเอาอาวุธปืนเพื่อนำไปขายให้  พอมาถึงก็พบอาวุธปืนกระบอกดังกล่าววางอยู่บนโต๊ะ โดยแยกแมกกาซีนออกจากตัวปืน ตนจึงหยิบปืนมาสไลด์ลูกปืนที่ยังค้างในลำกล้องออกเพื่อจะเช็ดปืน เป็นจังหวะที่นิ้วของตนเองเข้าไปอยู่ในโกร่งไกปืน ทำให้ปืนลั่นใส่เข้าที่ศีรษะผู้ตายขณะนั่งอยู่ หลังเกิดเหตุตนพยายามเรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งโรงพยาบาลแล้ว แต่ไม่มีใครกล้ารับ

จากการสอบปากคำผู้ต้องหา เบื้องต้นทราบว่าทั้งสองคนเคยติดต่อซื้อขายอาวุธปืนผิดกฎหมายมาก่อนหน้านี้หลายครั้ง  โดยผู้ตายมีหน้าที่หาอาวุธปืนมาให้ผู้ก่อเหตุนำไปขาย  ครั้งนี้ผู้ก่อเหตุให้การอ้างว่าฝ่ายผู้ตายติดต่อให้มาดูอาวุธปืน  เพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้าอีกทอดหนึ่ง แต่มาเกิดเหตุเสียก่อน เพราะผู้ต้องหาไม่มีความชำนาญในการใช้อาวุธปืน โดยหลังเกิดเหตุผู้ต้องหาพยายามเรียกแท็กซี่พาผู้ตายส่งโรงพยาบาล  แต่รถแท็กซี่เห็นผิดสังเกตจึงรีบขับรถมาแจ้งที่โรงพัก  และเป็นจังหวะที่ สภ.บางพลี กำลังปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม จึงเข้าตรวจที่เกิดเหตุและควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทัน ส่วนสาเหตุที่อ้างว่าปืนลั่นนั้นยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ ต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์และชันสูตรศพอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป