ช่วงเย็นวันนี้ (21 ก.ค.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงสถานการณ์น้ำรอการระบาย และแนวทางแก้ไขปัญหาและรับมือว่า เบื้องต้นจะต้องหาวิธีการผลักดันน้ำ เช่น ผลักดันออกทางคลอง 100 คิว เพื่อลงทะเล โดยจะประสานกับกรมชลประทาน เพราะหากน้ำไหลช้า ก็จะเอ่อขึ้นมา โดยเฉพาะฝั่งตะวันออก หัวหมาก ศรีนครินทร์ อย่างอุโมงค์บึงหนองบอน คลองเคล็ด ที่ยังมีปัญหาการระบายน้ำอยู่ ทำให้เกิดการสะสมต่อเนื่อง ซึ่งจะต้องรีบไปแก้ไขว่า จะระบายลงคลองแสนแสบและผลักดันน้ำได้อย่างไร
เพื่อเร่งให้น้ำไปถึงอุโมงค์ระบายน้ำที่อยู่ไกล อย่างจากมีนบุรีกว่าจะมาถึงทางเข้าอุโมงค์ระบายน้ำปล่องแรกที่ลาดพร้าว ระยะทางก็ไกลมาก เป็นโจทย์ที่ต้องทำในเรื่องการผลักดันน้ำ และหวังว่าน้ำจะไม่เติมลงมาเยอะ แต่ก็จะต้องรอดูสถานการณ์คืนนี้
ไม่ต้องโทษใคร ให้โทษตนเองคนเดียว เพราะตนเองรับผิดชอบทั้งหมด น้ำท่วมไม่ต้องไปโทษใครเลยว่าใครผิดใครถูก ให้โทษผู้ว่าฯ เพราะตนเองเป็นผู้ว่าปัจจุบันแล้ว ผู้ว่าฯ ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว ไม่ต้องไปพูดถึงคนอื่นในอดีตทั้งสิ้น และขอรับผิดชอบ 100% และจะทำให้ดีที่สุด วางแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาว ทั้งนี้ก็จะต้องอธิบายข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น
นายชัชชาติ กล่าวว่า ส่วนจะใช้ระยะเวลาการระบายน้ำกี่วันนั้น จะต้องขอดูสถานการณ์อีกครั้ง ทั้งนี้หากเร่งตัวปั๊มนั้นและไม่มีฝนเติมลงมา คาดว่าพรุ่งนี้เช้า (22 ก.ค.) จะบรรเทาขึ้น แต่ก็จะเหลือจุดย่อย ๆ ตามหมู่บ้าน ที่จะต้องเข้าไปหาทางแก้ไขอีกครั้ง ส่วนถนนหลักแห้งเกือบหมดแล้ว ทั้งนี้ก็จะต้องประเมินดูสถานการณ์ด้วยว่า จะมีฝนตกลงมาอีกหรือไม่เพราะเอาแน่ไม่ได้
ทั้งนี้ที่ผ่านมาน กทม. ได้พร่องน้ำในคลองไว้รอ อย่างเมื่อวานก็พร่องไว้ 30% แต่ฝนตกหนักต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง และในหลายจุดที่มีการทำการลอกท่อไว้ แต่ก็มีจุดที่ต้องปรับปรุงเอาไปเป็นบทเรียน และวันนี้ก็ได้ปล่อยแถวหน่วยงานต่าง ๆ ของ กทม. ช่วยขนคนกลับบ้าน เพราะปัญหาที่พบเมื่อวานคือ คนกลับบ้านไม่ได้ เห็นแล้วเป็นภาพที่โหดร้ายมาก
นอกจากนี้ยังมีปัญหาขยะที่มากองรวมรอเก็บ เมื่อน้ำท่วมก็พัดไปลงท่อระบายน้ำ และรถขยะก็เก็บไม่ได้ จึงขอฝากประชาชน ถ้าเห็นสถานการณ์เจอขยะ ก็ให้ช่วยกันเก็บ อย่าให้ลงน้ำ รถขยะมาแล้วค่อยเอาไปวาง อยากให้ช่วย ๆ กัน แม้จริง ๆ แล้วภาระจะเป็นของ กทม.
นายชัชชาติ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ระบุพร้อมนำผู้ต้องขังมาช่วยลอกท่อให้ได้มากกว่า 530 กม. ที่จ้างมาก่อนหน้านี้ ว่า เป็นเรื่องที่ดี เดี๋ยวจะมีการประสานงานกัน ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ผลดี หลายคนที่บอกว่าน้ำระบายได้เร็วขึ้นหลังลอกท่อ เพราะเส้นเลือดฝอยคือท่อระบายน้ำ เส้นเลือดใหญ่ คือ คลอง อุโมงค์ หากเชื่อมโยงกันได้ ก็จะทำให้ภาพรวมดีขึ้น ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ ไม่ได้คิดค่าจ้างลอกท่อ ถือเป็นความร่วมใจกัน ก็ขอขอบคุณนายสมศักดิ์ด้วย