21 ก.ค. 65 การประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 11 รมต. เข้าสู่วันที่ 3 ของการอภิปราย โดยการอภิปรายวันนี้ ( 21 ก.ค. 65 ) ฝ่ายค้านได้วางตัวผู้อภิปรายพุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำให้บรรยากาศการอภิปรายวันนี้ นายกฯ จึงต้องลุกขึ้นชี้แจง ตอบข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านอยู่เป็นระยะๆ
ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการนายกฯ หรือ PMOC เผยแพร่ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ในห้องทำงานนายกฯ ประจำรัฐสภา ซึ่งเป็นภาพที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายบริหาร ระหว่างติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจรมต. เพื่อแสดงให้เห็นว่า แม้ต้องมาฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่ไม่ทิ้งภารกิจงานบริหารราชการแผ่นดิน
ทั้งนี้ "PMOC" ยังได้เผยแพร่ข้อความว่า "แม้จะมีอภิปรายในรัฐสภา แต่ #หน้าที่และความรับผิดชอบ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ไม่ได้หยุดตามไปด้วย เพราะปัญหาของพี่น้องประชาชนที่รอการแก้ไขและพัฒนายังมีอีกมาก ดังนั้น การบริหารราชการแผ่นดินจึงรอช้าไม่ได้ จึงเป็นเรื่องคุ้นเคยกับการที่เราได้เห็นภาพนายกฯ ทำหน้าที่ทั้งผู้นำฝ่ายบริหาร และรับฟังการตรวจสอบจากรัฐสภาในเวลาเดียวกัน"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงต่อสภา ตอนหนึ่งโดยย้ำทั่วโลกเผชิญวิกฤต แต่ไทยยังเป็นศูนย์กลางการลงทุน ไม่ใช่รัฐล้มเหลว
นายกฯ กล่าวว่า สถานการณ์โลกในทุกวันนี้เกิดผลกระทบกับทุกประเทศทั่วโลกไม่ใช่แค่ประเทศไทย อยากให้ดูว่าเราแก้ปัญหามากน้อยเพียงใด ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลให้รายได้ลดลง ประชาชนที่มีรายได้น้อยเดือดร้อน
รัฐบาลจึงมีมาตรการเฉพาะกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูแลผู้มีรายได้น้อย เรื่องน้ำมัน เรื่องกลุ่มเปราะบาง ทั้งหมดเราใช้งบประมาณไปสูง อาจจะมองว่าเรากู้เงินไปมาก ก็เพราะมีความจำเป็นต้องกู้ แต่ขณะเดียวกันเรามีทุนสำรองที่มากพอสมควรเพื่อความเชื่อมั่นให้ระบบการเงินการคลังของไทย และยังมีขีดความสามารถในการชำระหนี้สาธารณะ
สถานการณ์เช่นนี้ กระทบกับหลายๆประเทศ ไทยไม่ได้อยู่ในฐานะรัฐล้มเหลว ทุกประเทศยังเชื่อมั่น เชื่อใจ พุ่งเป้า ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในเรื่องของการลงทุน
สิ่งสำคัญคือคนไทยมองไทยกันเองอย่างไร เป็นสิ่งสำคัญ ขอให้ระมัดระวังการจะพูดที่อาจกระทบกับการต่างประเทศหรือประเทศเพื่อนบ้าน เพราะต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เป็นเรื่องของประชาชนต่อประชาชน รายได้ มีมูลค่าการค้าขายชายแดนจำนวนมหาศาล ตลอดจนความปลอดภัยของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนตามแนวชายแดน
สิ่งที่รัฐบาลทำ ไม่ใช่ว่าไม่ดีทุกเรื่อง แม้ไม่ได้ดีที่สุด แต่ไม่ได้แย่ที่สุด สิ่งที่ถูกอภิปรายอาจสร้างความเข้าใจผิดได้ จึงอยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นประเด็นหลัก มากกว่าการทะเลาะเบาะแว้ง พูดรุนแรงกันไปมา ซึ่งเราต่างเป็นมนุษย์ด้วยกันและนายกรัฐมนตรีให้เกียรติสมาชิกฯ เสมอ แม้จะถูกโจมตี แต่ในฐานะนายกรัฐมนตรีก็ต้องยอมรับการอภิปราย