จับจังหวะ “พีระพันธุ์ - ณัฏฐพล” ปูทางพรรคใหม่? 

7 ก.ค. - เป็นประธานการประชุมร่วมระหว่างผู้บริหารการเคหะแห่งชาติ กับตัวแทนภาคประชาชน ผู้ค้าจากตลาดห้วยขวาง ตลาดดินแดง เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาตามข้อร้องเรียน ที่ขอให้การเคหะฯ พิจารณาเรื่องการต่อสัญญาการเช่าแผงค้า รวมถึงขอให้ลดค่าเช่าพื้นที่ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19  และวิกฤตด้านพลังงาน 

12 ก.ค. - เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการตามดำริของนายกฯประยุทธ์ โดยเฉพาะเรื่องที่ประชราชนร้องเรียนให้รัฐบาลช่วยเหลือก

เผยตัวเลขร้องเรียนปัญหาผ่านทำเนียบรัฐบาลเกือบ 1.7 แสนเรื่อง เป็นข้อร้องเรียนผลกระทบจากโควิด-19 มากที่สุด มติที่ประชุมสั่งทีมงานแก้ปัญหาเร่งด่วน โดยเฉพาะกรณีถูกหน่วยงานรัฐเลิกจ้างไม่เป็นธรรม และให้เยียวยาหลายกรณีที่พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน 

14 ก.ค. - ลงพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ติดตามแก้ปัญหาให้ประชาชน ช่วยเหลือครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องเลี้ยงดูลูกสาวพิการทางสมอง และออทิสติก 2 คน รวมทั้งหลานชายวัย 5 ขวบ จนติดหนี้นอกระบบจำนวนมาก รวมทั้งช่วยเหลือครอบครัวเกษตรกรยากจนเลี้ยง 6 ชีวิต ด้วยเงินผู้สูงอายุ 

นี่คือภารกิจของนายพีระพันธุ์ ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า นายพีระพันธุ์ ทำหน้าที่เหมือนเป็น “ตัวแทนนายกฯ” ในการติดตามแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะที่ร้องเรียนเข้ามา ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจั
หวัด

งานหลายงานอยู่ในความดูแลของหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบหลักอยู่แล้ว เช่น เรื่องการเช่าพื้นที่การเคหะฯ อยู่ในความดูแลของกระทรวงมหาดไทย และกระทรวง พม.  เรื่องดูแลครอบครัวผู้ยากไร้ ด้อยโอกาส อยู่ในความดูแลของกระทรวง พม. แต่นายพีระพันธุ์ สามารถสั่งงานได้อย่างรวดเร็ว เห็นผลเป็นรูปธรรมทันที  ในลักษณะที่เรียกว่า “ใช้อำนาจนายกฯสั่งงาน” กันเลยทีเดียว  ซึ่งการลงพื้นที่แต่ละครั้ง ไม่ต้องมีรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงลงไปด้วยแต่อย่างใด 

ถือเป็นการอุดช่องโหว่การทำงานของนายกฯ ที่ถูกครหาว่าห่างเหินประชาชน และไม่ค่อยสนใจชีวิตความเป็นอยู่ที่แท้จริงของชาวบ้านร้านตลาด ซึ่งถูกฝ่ายค้านโจมตีมาตลอด 

ที่สำคัญนายพีระพันธุ์ ถือเป็นหน่วยล่วงหน้าของนายกฯ  เพราะพื้นที่ไหนที่ลงไปแก้ปัญหา หลังจากนั้นนายกฯจะลงพื้นที่ตามไป เช่น จังหวัดร้อยเอ็ด ที่นายกฯมีคิวจะลงพื้นที่เร็วๆ นี้ รวมทั้งจังหวัดระยอง 

น่าสังเกตว่า นายพีระพันธุ์ มีข่าวกำลังแต่งตัวเข้าไปเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งคาดว่าจะเป็นพรรค “แตกแบงก์พัน” ของพลังประชารัฐ เน้นกวาดคะแนน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์  และอาจเป็นพรรคสำรองที่จะเสนอชื่อ “บิ๊กตู่” เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพื่อแก้ปัญหาการเมืองภายในพรรคพลังประชารัฐ ตลอดจนพรรคที่จะจับมือกันตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งด้วย 

คนหนึ่ง คือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ซึ่งติดล็อกถูกตัดสิทธิทางการเมืองอยู่ แต่ก็ยังมีข่าวทำพรรคไทยสร้างสรรค์ รวมกลุ่มอดีตแกนนำ กปปส. เพื่อสานงานการเมืองต่อไป

นายณัฏฐพล โลว์โปรไฟล์ไปนานมาก หลังจากถูกศาลพิพากษาจำคุก และต้องเข้าคุกจริงระหว่างรอประกันตัว ในคดีการชุมนุมและขัดขวางการเลือกตั้งร่วมกับ กปปส. ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี และหลุดจาก ส.ส. ทั้งๆ ที่อนาคตการเมืองกำลังโชติช่วง เป็นแกนนำพรรคพลังประชารัฐ และมีตำแหน่งระดับรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเกรดเอ 

ล่าสุด นายณัฏฐพล โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ “การบินไทย” เป็นข้อความเชิงบวก เชิงตั้งความหวัง 

ถือเป็นความเคลื่อนไหวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อเปิดตัวนายณัฏฐพลอีกครั้ง หลังจากเงียบไปนาน และการพูดถึงการบินไทย  ยังอาจส่งนัยทางการเมืองถึง นายพีระพันธุ์ ด้วย ในฐานะที่เข้าไปร่วมแก้ไขปัญหาและทำแผนฟื้นฟูการบินไทย 

เป็นที่ทราบกันดีในแวดวงการเมืองว่า นายณัฏฐพล กำลังทำพรรคไทยสร้างสรรค์ โดยมี “ จั้ม” สกลธี ภัททิยกุล อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข 3 เป็นแกนนำสำคัญด้วย และอาจได้รับการวางตัวเป็นเลขาธิการพรรค 

ส่วนหัวหน้าพรรค มีการพูดถึงชื่อ กานต์ คฤหัสเดช นักการเงินคนสำคัญที่มีผลงานระดับนานาชาติ ยังไม่ชัดว่าจะมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ หรือหัวหน้าพรรค เพราะพรรคไทยสร้างสรรค์ ต้องการโชว์จุดขายด้านเศรษฐกิจ 

สำหรับความเป็นไปได้ที่ทั้งสองพรรคจะรวมตัวกันเป็นพรรคเดียว หรือแยกกันเดิน แล้วรวมกันตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง จะมีความชัดเจนช่วงหลังศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ  โดยมีข่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ จะประชุมใหญ่พรรคช่วงต้นเดือนสิงหาคม  ขณะที่พรรคไทยสร้างสรรค์ ก็ยังรอดูความชัดเจนของกติกาการเลือกตั้งและสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ 

ภาพลักษณ์ของทั้ง 2 พรรค ค่อนข้างใกล้เคียงกัน คือ สนับสนุน “บิ๊กตู่” พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยพรรครวมไทยสร้างชาติ มีแบรนด์ชัดเจนกว่าในแง่ของการสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ และมีอดีต แกนนำ กปปส.เข้าร่วมด้วย เช่น วิทยา แก้วภราดัย และคุณขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ลูกเลี้ยงกำนันสุเทพ ที่ถูกวางตัวเป็นเลขาธิการพรรค

ขณะที่พรรคไทยสร้างสรรค์ก็มีภาพความเป็น กปปส. แต่นายณัฏฐพล อยากเสริมความแข็งแรงด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้เป็นแบรนด์ที่แตกต่างกับพรรคอื่นๆ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะควบรวมพรรค หากผู้ใหญ่ในทางการเมืองตัดสินใจ