ทวิตเตอร์ฟ้องศาลบังคับให้ "อีลอน มัสก์" ซื้อกิจการ

เอกสารคำฟ้องของบริษัททวิตเตอร์ที่ยื่นต่อศาลในรัฐเดลาร์แวร์ของสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร ระบุว่า อีลอน มัสก์ ละเมิดข้อตกลงเสนอซื้อกิจการในราคาหุ้นละ 54.20 ดอลลาร์ (1,962.5 บาท) หรือรวมมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์  (เกือบ 1.59 ล้านล้านบาท) และขอให้ศาลบังคับให้มัสก์ดำเนินการควบรวมกิจการให้แล้วเสร็จตามข้อตกลง

นอกจากนี้ทวิตเตอร์ระบุเหตุผลในคำฟ้องว่า เพื่อปกป้องทวิตเตอร์และผู้ถือหุ้นจากความเสี่ยงของตลาด และผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจจากความพยายามของมัสก์ที่จะล้มเลิกข้อตกลงควบรวมกิจการ

การยื่นฟ้องนี้มีขึ้นหลังจากมัสก์ส่งหนังสือแจ้งทนายความฝั่งทวิตเตอร์เมื่อค่ำวันศุกร์ว่า เขาต้องการล้มเลิกข้อตกลงซื้อกิจการ เนื่องจากทวิตเตอร์ละเมิดเงื่อนไขหลายข้อ ซึ่งรวมถึงการไม่มอบข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนสแปมและบัญชีผู้ใช้ปลอมตามที่เขาร้องขอ แต่ฝ่ายกฎหมายของทวิตเตอร์แจ้งกลับในวันจันทร์ว่า ความพยายามถอนตัวจากข้อตกลงซื้อกิจการเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เพราะมัสก์เป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงและขอให้เขาทำตามข้อตกลง

การยื่นฟ้องครั้งนี้คาดว่าจะนำไปสู่การต่อสู้ในศาลอย่างยาวนาน ว่าจะทำให้ทวิตเตอร์สามารถบังคับให้มัสก์ปฏิบัติตามข้อตกลงควบกิจการ และเข้าเป็นเจ้าของกิจการได้หรือไม่ หรืออย่างน้อยทำให้เขายอมจ่ายชดเชย 1,000 ล้านดอลลาร์ สำหรับการฉีกข้อตกลง

นักวิเคราะห์บางคนมองว่า มัสก์ใช้เรื่องสแปมและบัญชีผู้ใช้ปลอมในแพลตฟอร์มทวิตเตอร์เป็นข้ออ้าง เพื่อถอนตัวจากข้อตกลงที่มีราคาสูงเกินไป หลังจากมูลค่าหุ้นทวิตเตอร์ลดต่ำลง และตลาดเทคโนโลยีโดยรวมก็ชะลอตัวลง อีกทั้งราคาหุ้นของบริษัทเทสลาที่มัสก์ใช้สนับสนุนดีลซื้อกิจการ ก็ดิ่งลงอย่างแรงนับจากเขาบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการทวิตเตอร์