เปิดมติแพทยสภาออกกฎเหล็กใช้กัญชาเฉพาะการแพทย์

วันนี้แพทยสภาและสภาวิชาชีพต่างๆ ได้ประชุมและมีมติเห็นชอบร่วมกัน โดยประกาศให้ใช้กัญชาทางการแพทย์ทันที แต่มีกฎเหล็กเข้ม และไม่ให้ใช้เชิงนันทนาการ พร้อมทั้งให้อาคารมหิตลาธิเบศร ของสำนักงานเลขาธิการแพทยสภา เป็นพื้นที่ปลอดกัญชา กัญชง บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และยาเสพติดทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยและการมีสุขภาพดีของทุกคน

ล่าสุดช่วงเย็นที่ผ่านมา ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี กรรมการแพทยสภา เปิดเผยถึงมติเรื่องการใช้และไม่ใช้กัญชาเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องของประชาชน จากการประชุมของแพทยสภาและสภาวิชาชีพต่างๆ ประเด็นสำคัญที่ใช้กัญชาได้ มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คือ เฉพาะสารสกัดกัญชาที่ทราบปริมาณแน่นอน ของสาร CBD และ THC ในการรักษาโรคตามข้อบ่งใช้ จากแพทย์ที่ผ่านการอบรมเท่านั้น

1.ไม่ใช้กัญชาในลำดับแรกของการรักษาโรค แต่จะใช้เมื่อใช้ยามาตรฐานขนานอื่นแล้วไม่สามารถรักษาหรือควบคุมอาการ ภาวะของโรคได้ 

2.ไม่ใช้กัญชาในหญิงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร เยาวชนอายุไม่เกิน 25 ปี เพราะมีผลต่อพัฒนาการของสมอง (ย้ำว่า 25 ปี ไม่ใช่ 20 ปี)

3.ไม่ผสมกัญชา กัญชง ลงในอาหารหรือขนม สำหรับให้ประชาชนรับประทาน

4.ไม่ใช้กัญชา กัญชง เพื่อนันทนาการโดยเด็ดขาด

5.ไม่ใช้ ช่อดอกของกัญชา เพราะมีสารเสพติด

6. ไม่ใช้ กัญชา กัญชง ในประชาชนทั่วไปโดยเด็ดขาด

นพ.อมร กล่าวด้วยว่า จากบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง 8 หน่วยงานของรัฐ เกี่ยวกับการใช้กัญชา กัญชง ในการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง และไม่ใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมหรืออันตราย ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา พบว่าหลังไทยปลดล็อกกฎหมายกัญชามา มีรายงานว่า มีผู้ใช้กัญชาเกิดอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน ประสาทหลอน ทำร้ายตนเองและผู้อื่น ไปเพิ่มภาระงานที่ห้องฉุกเฉินโดยไม่จำเป็น

ขณะเดียวกัน กัญชามีผลกระทบด้านลบต่อการเจริญเติบโตของสมองและพัฒนาการของเด็กในระยะยาวด้วย อีกทั้ง กัญชาไม่สามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ ใช้เพียงบรรเทาอาการชั่วคราวของโรคตามข้อบ่งใช้เท่านั้น