กรมอุตุฯ เตือนดังๆ ฝนตกหนักถึงหนักมาก 57 จว. เรือเล็กงดออกจากฝั่งถึง 14 ก.ค.
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทย ส่งผลฝนตกหนักถึงหนักมาก 57 จังหวัด ขณะกรุงเทพและปริมณฑลมีฝนร้อยละ 60 ของพื้นที่ ทะเลอันดามันมีคลื่นสูง เรือเล็กงดออกจากฝั่งถึง 14ก.ค.นี้
11 กรกฎาคม 2565 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจาก ฝนตกหนักถึงหนักมาก และ ฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้
สำหรับคลื่นลมบริเวณ ทะเลอันดามัน และ อ่าวไทย มีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4เมตร บริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 14 ก.ค. 65 ไว้ด้วย
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ตั้งแต่เวลา 17:00 วันนี้ (11 ก.ค.) ถึง 17:00 วันพรุ่งนี้ (12 ก.ค.)
ภาคเหนือ
- มี ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
- บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา ลำปาง น่าน แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
- อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- มี ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
- บริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
- อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
- ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคกลาง
- มี ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง
- บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี และราชบุรี
- อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
- มี ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
- บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
- มี ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมฝนตกหนักบางแห่ง
- บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
- อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
- มี ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
- บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง
- อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่ภูเก็ตขึ้นมา
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-45 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มี ฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร
ตั้งแต่กระบี่ลงไป
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มี ฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
- มี ฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่
- อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
นอกจากนี้ นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ลงนามในประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 10 ลงวันที่
11 กรกฎาคม 2565 " ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน
มีผลกระทบจนถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2565 " มีเนื้อหาดังนี้..
ในช่วงวันที่ 11–14 ก.ค. 65 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย
และอ่าวไทย ประกอบกับ ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่
หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึง
หนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก และภาคใต้
ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา