นายชินโซ อาเบะ เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2 สมัย สมัยแรกตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2549 ถึงเดือนกันยายน ปี 2550 ตอนนั้นเขาสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุด คือ 52 ปี เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงและคนรุ่นใหม่ และสมัยที่ 2 ระหว่างเดือนธันวาคม ปี 2555 ถึงเดือนกันยายน
ปี 2563 สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุดเกือบ 8 ปี และไม่น่าเชื่อว่า การดำรงตำแหน่งทั้งสองครั้ง เขาเป็นฝ่ายลาออกเองด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ หลังถูกรุมเร้าด้วยโรคลำไส้อักเสบ
ชินโซ อาเบะ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในเวทีสากล โดยเฉพาะชุดนโยบาย “อาเบะโนมิกส์” (Abenomics) ที่ประกอบด้วยหลักการสำคัญ 3 ประการ หรือที่เรียกว่า ลูกธนู 3 ดอก (three arrows) คือ นโยบายการเงิน (bold monetary policy) นโยบายการคลัง (flexible fiscal policy) และยุทธศาสตร์การเจริญเติบโต(growth strategy) เพื่อส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน เพื่อแก้ปัญหาเงินฝืดด้วยการผ่อนคลายการเงิน โดยธนาคารกลางเพิ่มปริมาณเงินจำนวนมากเข้าไปในระบบเศรษฐกิจโดยตรง ผ่านการซื้อพันธบัตรรัฐบาลคืน ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นเป็นรัฐบาลที่ถือครองสินทรัพย์มากที่สุดในโลกถึง 70% ของ GDP เปรียบเทียบกับสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปที่ถือครอง 25% ของ GDP
แน่นอนว่า อาเบะโนมิกส์ ถูกประเมินทั้งทางบวกและทางลบ รวมทั้งถูกมองว่าเป็นเพียงการประนีประนอมของบรรดามุ้งต่างๆ ภายในพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ส่วนการที่รัฐบาลญี่ปุ่น ซื้อสินทรัพย์และพันธบัตรทำให้เงินเยนอ่อนค่า และอัตราดอกเบี้ยต่ำ ช่วยผลักดันภาคการผลิตเพื่อส่งออกให้มีรายได้มากขึ้นก็จริง แต่ผู้ผลิตได้ย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศหมดแล้ว และการที่เงินเยนอ่อน ทำให้สินค้านำเข้ามีมูลค่าสูง ส่งผลกระทบต่ออัตราการบริโภคในครัวเรือน รวมถึงบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก
ญี่ปุ่นยังเผชิญสังคมสูงวัยรุนแรง (hyper aged society) ที่แม้เพิ่มการลงทุนในภาคสาธารณะ ที่จะสร้างงานและสร้างรายได้ แต่ก็ไร้ผลเพราะขาดแคลนแรงงาน อัตราค่าแรงตามอัตราเงินเฟ้อไม่ทัน ต่อให้มีงานประจำทำก็ไม่ได้มั่นคงเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ทำให้อาเบะโนมิกส์ถูกเปรียบเทียบว่า จะทำให้ “สวนญี่ปุ่น” (Japanese Garden) ที่ถูกจัดไว้เป็นระเบียบให้กลายเป็น “ทุ่งหญ้า” (Fields) หรือ ระบบเศรษฐกิจแบบสหรัฐฯ
อีกเรื่องหนึ่ง ที่ทำให้ทั้งอาเบะกับญี่ปุ่นโดดเด่นบนเวทีโลก คือ "การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน Tokyo 2020Olympic Games ที่ผู้คนยังจดจำเขาตอนที่เขาไปเซอร์ไพร์ซในพิธีปิด Rio 2016 Olympic Games ที่บราซิลในชุด Super Mario เรียกเสียงปรบมือเกรียวกราว
ในเรื่องการเมือง อาเบะยังมีบทบาทสำคัญโดยเป็นผู้กุมเสียงในมุ้งใหญ่ของ LDP สมกับที่ได้รับสมญา “เจ้าชาย” ที่ผู้ชื่นชอบเขาตั้งให้ ในฐานะที่เป็นลูกชายของชินทาโร อาเบะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ และหลานชายของ โนบุสึเกะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุนี้ ทำให้ถึงแม้ความนิยมในสมัยเป็นนายกรัฐมนตรี จะขึ้นๆ ลงๆ แต่ไม่ใครท้าทายหรือพยายามจะโค่นอำนาจเขา แถมพรรค LDP ยังแก้กฎเพื่อให้เขาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค 3 สมัยด้วยซ้ำ ในช่วงการระบาดของโควิด-19 อาเบะโดนตำหนิรุนแรงเรื่องหน้ากากอนามัยที่แจกฟรีให้ประชาชนทั้งเล็กเกินไปแล้วก็ล่าช้า ส่วนนโยบาย “Go to Travel” ที่กำหนดขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ก็ถูกตำหนิ ว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในญี่ปุ่นกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง
การที่เขาลาออกเพราะโรคลำไส้อักเสบกำเริบ ไม่ได้ทำให้อิทธิพลของ “เจ้าชาย” ภายในพรรคลดน้อยถอยลงเขายังมีบารมีเหนือ นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ที่พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกอยู่ใต้เงาของอาเบะ ส่วนเหตุการณ์ ช็อกโลกที่เกิดขึ้นกับอาเบะในครั้งนี้ ทำให้โลกต้องจับจ้องว่า ใครจะมีบารมีมากพอมาแทนที่ “เจ้าชายแห่ง LDP” ได้