ตลอดวันนี้มีกระแสข่าวแพร่สะพัดว่านายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันจะลาออกจากตำแหน่งโดยเฉพาะรายงานข่าวของ BBC ซึ่งในช่วงบ่ายก็มีรายงานข่าวยืนยันจากบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวน์นิ่งซึ่งเป็นทำเนียบนายกรัฐมนตรีของอังกฤษว่านายกรัฐมนตรีจอห์นสันจะแถลงลาออกจากตำแหน่งในวันนี้
ก่อนหน้านี้เพียงวันเดียวบอริส จอห์นสัน ประกาศความตั้งใจที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป แม้จะถูกกดดันอย่างหนักให้ลาออก หลังจากที่รัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล พร้อมใจกันลาออกมากกว่า 50 คนรวมถึงรัฐมนตรีคลังและรัฐมนตรีสาธารณสุขที่เพิ่งลาออกไป โดยจอห์นสันบอกว่า เขาได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนให้มาปฏิบัติหน้าที่ หากลาออกจะถือว่าไม่มีความรับผิดชอบโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อังกฤษกำลังเจอกับปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจและสงครามในยูเครน
จอห์นสัน กำลังเจอกับสถานการณ์ที่เหมือนกับการก่อกบฏในพรรคของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการประกาศลาออกของรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลหลายสิบคน แม้แต่คนที่เขาเพิ่งแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีคลังคนใหม่เมื่อวานนี้อย่างนายซาดิม ซาฮาวีก็ยังแนะให้จอห์นสันลาออกอย่างมีศักดิ์ศรีเช่นกัน ส่วนคนที่ยังไม่ลาออกก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยที่จอห์นสันจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป ล่าสุดก่อนลาออกจากตำแหน่ง จอห์นสันยังมีคำสั่งปลด ไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีกระทรวงเคหะและชุมชน ออกจากตำแหน่ง โดยโกฟเป็นหนึ่งในผู้ที่ออกมากดดันให้จอห์นสันลงจากตำแหน่งอย่างเปิดเผย
จอห์นสันเพิ่งรอดพ้นการลงมติไม่ไว้วางใจโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคอนุรักษ์นิยมของเขาเมื่อเดือนที่แล้วด้วยคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจ 148 เสียง จากทั้งหมด 359 เสียง ซึ่งคิดเป็น 41%
จอห์นสันถูกกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งเพราะส.ส. ไม่พอใจการบริหารงานที่ผิดพลาดหลายอย่างของเขา เช่น การแต่งตั้ง คริส พินเชอร์ เป็นรัฐมนตรี ทั้งที่มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำผิดทางเพศหลังก่อเหตุลูบคลำแขก 2 คนที่มาร่วมงานดินเนอร์ส่วนตัว โดยเจ้าตัวอ้างว่าทำไมเพราะความมึนเมา ไม่รู้ตัว นอกจากนั้นยังมีเรื่องการละเมิดจัดงานปาร์ตี้ในช่วงล็อกดาวน์ และการปรับขึ้นภาษีจนประชาชนไม่พอใจ เขาถูกมองว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่างเช่นไม่เคารพแนวปฏิบัติของรัฐบาลอย่างเช่นการตัดสินร้องขอให้สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ปิดประชุมสภาเป็นเวลา 5 สัปดาห์ในช่วงที่เกิดวิกฤตการเมืองเรื่องอังกฤษต้องการออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปหรือ เบร็คซิท(Brexit )นั่นเอง ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่บังควรเพราะไม่ควรดึงสถาบันกษัตริย์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง จนกระทั่งจอห์นสันต้องกราบบังคมทูลขอโทษ
นอกจากนั้นยังมีกรณีการจัดงานปาร์ตี้กันอย่างมึนเมา 1 วันก่อนพระราชพิธีพระศพของเจ้าชายฟิลิปซึ่งเป็นช่วงที่ควรจะงดงานรื่นเริง แม้แต่สมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 ยังทรงประทับนั่งโดยลำพังเพื่อกล่าวคำอาลัยให้กับพระสวามีที่อยู่เคียงข้างมาเกือบ 74 ปี
อีกเรื่องหนึ่งก็คือเขาถูกกล่าวหาว่าคอรัปชั่นเมื่อ WhatsApp เปิดเผยว่าเขาได้ร้องขอเงินบริจาคจากพรรคอนุรักษ์นิยมเพื่อนำไปฟื้นฟูบูรณะที่พักที่ดาวน์นิ่ง สตรีท เป็นเงินถึง 2 แสนปอนด์หรือประมาณ 9 ล้าน 3 แสนบาท
นอกจากนั้นยังมีเรื่องเงินบริจาคพรรคการเมืองและเงินกู้ซึ่งอังกฤษเคร่งครัดในเรื่องนี้มากโดยหากจำนวนเงินเกิน 7,500 ปอนด์หรือประมาณ 3 แสน 5 หมื่นบาทจะต้องเปิดเผยต่อสาธารณชน แต่จอห์นสันไม่ได้รายงานเรื่องนี้ส่งผลให้ทางพรรคถูกคณะกรรมการเลือกตั้งสั่งปรับเป็นเงินกว่า 5 แสน 8 หมื่้นบาทเมื่อเดือนธันวาคมที่แล้ว