svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"อุตตม"จี้รัฐคลอดมาตรการป้องกันเงินเฟ้อลดผลกระทบปชช.

06 กรกฎาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"อุตตม สาวนายน"จี้รัฐบาลออกมาตรการดูแลประชาชนอย่างเต็มระบบ เพื่อลดผลกระทบจากเงินเฟ้อพุ่งขึ้นต่อเนื่อง และต้องส่งให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้จริง

6 กรกฎาคม 2565 ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว โดยมีเนื้อหาระบุว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศอัตราเงินเฟ้อประเทศไทยเดือน มิ.ย. 2565 สูงขึ้นถึงร้อยละ 7.66 และเมื่อย้อนดูตัวเลขอัตราเงินเฟ้อตั้งแต่เดือน ม.ค. อยู่ที่ร้อยละ 3.23 เดือน ก.พ.อยู่ที่ร้อยละ 5.28 เดือน มี.ค. ร้อยละ 5.73 เดือน เม.ย. ร้อยละ 4.65 และเดือน พ.ค. ร้อยละ 7.10  

 

"อุตตม"จี้รัฐคลอดมาตรการป้องกันเงินเฟ้อลดผลกระทบปชช.

 

ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่า อัตราเงินเฟ้อประเทศไทยอยู่ในทิศทางขาขึ้น ซึ่งชี้ว่าประชาชนยังต้องเผชิญกับความเดือดร้อนเรื่องภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ขณะที่ด้านผู้ประกอบการก็ยังต้องแบกรับต้นทุนที่สูงต่อไป และที่สำคัญผลกระทบนี้ก็ยังอาจจะขยายวงกว้างเร็วกว่าที่คาด หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเป็นระบบและทันต่อสถานการณ์ 

 

จากการที่ล่าสุดรัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด ชุดแรก คือ คณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ นายกฯเป็นประธานด้วยตัวเอง ส่วนอีกชุด คือ คณะกรรมการเฉพาะกิจติดตามประมวลผลวิเคราะห์ผลกระทบ และจัดทำข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาทุกมิติ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดี 

อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ปัจจุบัน จำเป็นที่คณะกรรมการดังกล่าวรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งวางมาตรการที่เหมาะสม และกำหนดแนวทางขับเคลื่อนให้ตรงเป้า มีผลจริงจังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการดำเนินการนั้นประเด็นสำคัญ คือ  วิกฤตซ้ำซ้อนที่ผ่านมาจากการระบาดของโควิด ราคาพลังงานที่พุ่งสูง ภาวะเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มถดถอย ได้ส่งผลกระทบต่อฐานะการคลังของประเทศ โดยเฉพาะการก่อหนี้ที่อยู่ในระดับสูง (แน่นอนบางขณะมีความจำเป็น แต่ต้องใช้เงินที่กู้มาอย่างมีประสิทธิภาพแท้จริง) ประกอบกับการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้นนั้น กำลังทำให้ความยืดหยุ่นและทางเลือกในการออกมาตรการดูแลเศรษฐกิจปากท้องประชาชนของรัฐบาลกำลังมีข้อจำกัดยิ่งขึ้น

 

สถานการณ์ปัจจุบันจึงเป็นความท้าทายสำคัญยิ่งของรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐ ที่กำกับดูแลแก้ไขปัญหาต่างๆ ผมจึงเห็นว่ารัฐบาลควรมีแนวทางในการดำเนินการดังนี้ 

 

ประการแรก การดูแลประชาชนและผู้ประกอบการ ยังต้องดำเนินการต่อเนื่อง แต่ขณะที่การคลังมีข้อจำกัดมากขึ้นนั้น รัฐบาลควรพิจารณากำหนดชุดมาตรการอย่างรอบคอบให้ตอบโจทย์ โดยคำนึงถึงการจัดลำดับความเร่งด่วน ความจำเป็นในการดูแลแต่ละภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบในลักษณะต่างๆ ให้ชัดเจน

ประการที่สอง การดำเนินนโยบายการเงินการคลัง ด้านการลงทุนและอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรักษาความสมดุล ระหว่างการดูแลสภาวะเงินเฟ้อขาขึ้น เช่น ด้วยนโยบายการเงินที่จะนำไปสู่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น กับการดูแลสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เช่น ด้วยมาตรการด้านการคลังต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้จริงและต่อเนื่อง ผู้ประกอบการอยู่รอดและมีโอกาสเติบโต

 

ผมหวังว่าคณะทำงานที่รัฐบาลตั้งขึ้น จะได้ทำงานอย่างเต็มที่ภายใต้ความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันมีความอ่อนไหวสูงและเปลี่ยนแปลงได้ทุกขณะ จึงต้องมีการบริหารจัดการความท้าทายที่เรากำลังเผชิญให้ทันเวลาและมีประสิทธิภาพครับ

logoline