"ทนายอนันต์ชัย" พร้อมบริษัทอสังหาฯ ร้องสอบ "ดีเอสไอ" ยึดทรัพย์ 1.2 พันล้าน

นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง พร้อมนายรมย์รวินทร์ ธัญเศรษฐ์กุล กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทเดอะ นิว คอนเซปท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม โดยมีนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ลงมารับหนังสือร้องเรียน

นายรมย์รวิน เปิดเผยว่า ได้ประกอบกิจการอสังหาริมทรัพย์ เริ่มทำโครงการคอนโดเพื่อการลงทุนเมื่อปี 2554 ลักษณะขายเป็นห้องชุดให้กับลูกค้า โดยลูกค้าจะได้รับผลตอบแทน 8% ต่อปีในระหว่างก่อสร้าง และได้รับผลตอบแทน 8% ต่อปี นับแต่วันโอนกรรมสิทธิ์ ตามระยะเวลาที่ระบุในสัญญา

โครงการแรกชื่อ “โครงการเดอะ นิวคอนเซปต์ เรสสิเด้นท์” ประกอบด้วย อาคารพักอาศัย 5 อาคาร และอาคารพาณิชย์อเนกประสงค์ 1 อาคาร ต่อมาขยายโครงการออกเป็นโครงการที่ 2 คือ “โครงการพูลวิลล่า” จากนั้นได้ขยายโครงการต่อมาตามลำดับรวม 18 โครงการ ระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 5-6 ปี ก่อนโควิด 19 ระบาด

ช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินการก่อสร้างห้องชุดแล้วเสร็จ 100% และโอนให้แก่ลูกค้าแล้ว 7 โครงการ มากกว่า 500 ห้อง โครงการที่ก่อสร้างเสร็จมากกว่า 50% จำนวน 4 โครงการ และโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างอีก 7 โครงการ ซึ่งบริษัทได้นำห้องชุดที่โอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ลูกค้าดังกล่าว ไปให้เช่าและจ่ายผลตอบแทน 8 % ให้ลูกค้าได้ตามสัญญาจริง โดยมีผลประกอบการที่ชัดเจน และบริษัทได้ส่งงบการเงินต่อกรมสรรพากรแสดงต่อสาธารณะ

ต่อมาปี 2563 เกิดวิฤติการระบาดเชื้อโควิด ทำให้บริษัทขาดสภาพคล่อง ไม่สามารถขายโครงการได้ บริษัทพยายามแก้ไขสถานการณ์ โดยได้รับเงินกู้จากธนาคาร 2 แห่ง มาประคองกิจการ

นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุนกับบริษัทอื่นอีก 2 บริษัท คาดหวังว่า บริษัทจะสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้ตามปกติภายในปี 2565

“ทนายอนันต์ชัย” เปิดเผยว่า มีลูกค้าบางรายที่ไม่ได้รับผลประโยชน์ตอบแทน 8% ตามสัญญา เนื่องจากบริษัทขาดสภาพคล่อง โดยได้นำคดีไปฟ้องที่ศาลแขวงเชียงใหม่ว่า บริษัทฉ้อโกง ซึ่งศาลพิพากษาว่า เป็นการผิดสัญญาทางแพ่ง บริษัทไม่มีความผิดฐานฉ้อโกง และพิพากษายกฟ้อง ตามคำพิพากษาคดีของศาลแขวงเชียงใหม่

หลังจากนั้นมีลูกค้ากว่า 80 ราย ไปร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับคำร้องทุกข์ไว้เป็นคดีพิเศษ แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่บริษัท คดีอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน (ดีเอสไอ) ว่า มีมูลความผิดหรือไม่

ดังนั้นการที่ดีเอสไอ ดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินของบริษัท โดยไม่ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย และส่งผลกระทบต่อลูกค้า วันนี้จึงเดินทางมายื่นหนังสือเรียกร้องความเป็นธรรม ให้ตรวจสอบการทำงานของดีเอสไอว่าเป็นไปตามขั้นตอนหรือไม่

นอกจากนี้ยังเตรียมยื่นคำพิพากษาศาลแขวงเชียงใหม่ เพื่อประกอบคำร้องให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในการปฏิบัติงานครั้งนี้ ว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดสถานใด เพื่อให้แต่ละฝ่ายได้รับความเป็นธรรมให้ได้มากที่สุด