กลายเป็นเหตุการณ์ระทึกอีกครั้ง ภายหลังเกิดเหตุคนร้ายเป็นชาย ใช้อาวุธปืนกราดยิงภายในศูนย์การค้าชื่อ “ฟิลด์ส” ศูนย์การค้าใหญ่ที่สุดของประเทศเดนมาร์ก ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงโคเปนเฮเกน โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันอาทิตย์ที่ 3 ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่น
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 3 คน โดย “โวเรน โทมัสเซน” สารวัตรใหญ่ ตำรวจโคเปนเฮเกน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุเมื่อช่วงบ่าย จึงรีบเข้าไปประจุดต่างๆ ท่ามกลางความตื่นตระหนกของพลเมืองที่อยู่ภายในห้าง
โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จับกุมชายวัย 22 ปี ชาวเดนมาร์ก พร้อมของกลางอาวุธปืนไรเฟิล 1 กระบอก และเครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเชื่อว่า เป็นการก่อเหตุเพียงลำพัง และกำลังอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ต้องสงสัย เพื่อค้นหาแรงจูงใจ โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับการก่อการร้าย ที่ยังไม่มีการตัดเรื่องนี้ทิ้ง
ขณะที่หนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า "เพื่อนๆ และตนเองได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมากกว่า 10 นัด จากนั้นทุกคนก็วิ่งเร็วที่สุดเพื่อหาทางออกจากห้อง ส่วนตัวเองเข้าไปหลบในห้องน้ำ โดยมีคนเข้ามาซ่อนตัวประมาณ 11 คน"
ขณะที่นายกรัฐมนตรี “เมตเต เฟรเดอริกเซน” ผู้นำเดนมาร์ก แถลงประณามเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งส่งกำลังใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ
ด้านสำนักพระราชวังเดนมาร์ก เผยแพร่แถลงการณ์ว่า สมเด็จพระราชินีมาเกรเธอที่ 2 และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ทรงโทมนัสเป็นอย่างยิ่ง เมื่อทรงทราบข่าว และทรงขอให้ทุกภาคส่วนในเดนมาร์ก มีความปรองดองและเห็นอกเห็นใจกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุการณ์กราดยิงที่ศูนย์การค้าเดนมาร์กครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในครั้งเลวร้ายที่สุด หลังเคยเกิดเหตุกราดยิงที่ศูนย์วัฒนธรรมในกรุงโคเปนเฮเกน เมื่อปี 2015 ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 5 คน
ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่งเกิดเหตุการณ์ยิงกันที่นอร์เวย์ ประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีประชาชน 2 ราย ถูกมือปืน 1 คน ยิงเสียชีวิตกลางกรุงออสโล