ถูกแซวทุกครั้งที่มีฝนตกหนัก กับภาพปัญหาน้ำรั่วซ้ำซากของสัปปายะสภาสถาน หรืออาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ที่ถูกสังคมค่อนแคะทุกครั้งที่ถูกฝนถล่มว่า ไม่สมกับมูลค่าการก่อสร้างที่มหาศาลนับหมื่นล้านบาท
โดยกรณีดราม่าล่าสุด คือกรณีเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่ถูกฝนจากพายุโซนร้อน "ชบา" ถล่ม เข้ามาในอาคาร บริเวณรอบโถงอาคารกลาง ชั้น 1 พื้นที่โดยรอบสระมรกต ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน "90 ปี รัฐสภา การเดินทางและความหวัง" ระหว่างวันที่ 27 มิ.ย. - 8 ก.ค. 65 จนพังราบ
ซึ่งภายหลังสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้้นว่า เป็นพื้นที่โล่ง พื้นกันน้ำ วัสดุสามารถนำมาประกอบใช้ได้อีก ส่วนภาพน้ำรั่วเป็นภาพเก่า แก้ไขแล้ว (อ่านข่าว)
ล่าสุดวันนี้ (3 ก.ค.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ติดตามปัญหาการรั่วซ้ำซากของอาคารรัฐสภา ได้กล่าวถึงถ้อยแถลงชี้แจงดังกล่าวของสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่า ข้าราชการรายงานขัอเท็จจริงต่อสาธารณชนไม่ครบถ้วน
นายวัชระ กล่าว นอกจากที่ทางเลขาสภาฯ ชี้แจงแล้ว ยังมีความเสียหายอีกเช่น ภาพประวัติศาสตร์ที่ใส่กระจกไว้ตกแตก 2 บาน ฝ้าเพดานอลูมิเนียมขนาดประมาณ 1.5 เมตร ×1.5 เมตร น้ำหนักประมาณ 10 - 20 กก. ตกลงมา 2 แผ่นข้างจุดที่จัดนิทรรศการ เดชะบุญที่หล่นลงมาไม่ถูกผู้ใด มิฉะนั้นก็อาจจะเกิดเป็นโศกนาฏกรรมได้ หากดูตามภาพและคลิปที่ตนเข้าไปถ่ายไว้เป็นหลักฐานเมื่อวานนี้
ขณะนั้นยังได้พบกับนายอรุณ ลายผ่องแผ้ว ผู้อำนวยการสำนักรักษาความปลอดภัยที่มาให้การต้อนรับในขณะที่ไปถ่ายภาพฝ้าเพดานไว้ อยากทราบว่าเหตุใดสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจึงไม่รายงานความเสียหายทั้งหมดให้ประชาชนทราบ
เพราะถ้าฝ้าเพดานซึ่งมีน้ำหนักมากยังหล่นลงมาในขณะฝนตกได้ ข้าราชการและประชาชนที่เข้าไปในสภาฯจะมีความปลอดภัย100%ได้อย่างไร หรือจะต้องให้ใส่หมวกกันน็อคเข้าสภา ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่า หากเจอฝ้าเพดานอลูมิเนียมหล่นใส่ตรง ๆ หมวกนิรภัยก็ไม่อาจป้องกันได้ ดังนั้น สภาฯจึงควรตรวจสอบความปลอดภัยให้มีมาตรฐานเพราะก่อนหน้านี้สมาคมผู้ตรวจสอบอาคารเคยมาตรวจสอบแล้วปรากฏว่า มีความเสี่ยงมากถึง 198 จุด
นายวัชระ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวประเด็นเกี่ยวกับการสร้างสภาใหม่ลักษณะปกปิดข้อเท็จจริง หมดเม็ดคลาดเคลื่อนมาโดยตลอด ตนได้ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ให้สอบจริยธรรมผู้แถลงข่าวเท็จมาแล้ว 2 ราย จึงไม่มีข้าราชการคนใดออกมาแถลงอีก
นายวัชระ กล่าวย้ำว่า ประเด็นสำคัญคือพื้นไม้ทั่วอาคารบริเวณที่จัดนิทรรศการ เป็นพื้นไม้พะยอมที่ผิดสเปค ไม่ใช่ไม้ตะเคียนทองตามข้อกำหนดในสัญญา ซึ่งเท่ากับว่านิทรรศการ 90 ปีรัฐสภา จัดบนพื้นไม้ที่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น แล้วเกียรติภูมิของสถาบันนิติบัญญัติของชาติจะอยู่ตรงไหน รวมทั้งยังมีภาพตอไม้หลายสิบตอรอบ ๆ อาคารรัฐสภา แล้วจะมีการตรวจรับงาน 100% จากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 4 ก.ค. 65 นี้ได้อย่างไร