วันนี้ (3 ก.ค.) นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมคณะ เข้าตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้อพยพหนีภัยสงคราม ในพื้นที่บ้านวาเลย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก โดยศูนย์อพยพแห่งนี้มีผู้อพยพอยู่ 250 คน เบื้องต้นผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้สั่งการให้ดูแลผู้อพยพตามหลักสากล และดูแลเด็กเล็กเป็นพิเศษ
ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำสิ่งของเครื่องใช้ อาหาร มาช่วยเหลือ กลุ่มผู้อพยพจากภัยสงคราม บ้านวาเล์ใหม่ จังหวัดเมียวดี ที่อพยพเข้ามาอยู่ตามแนวชายแดนประเทศไทย โดยฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตั้งศูนย์อพยพเพื่อช่วยเหลือตามหลักสากล โดยที่ศูนย์อพยพบ้านวาเลย์เหนือ อำเภอพบพระ มีผู้อพยพหนีภัยการสู้รบในพื้นที่ประเทศเมียนมาเข้ามาแล้ว 250 คน
นายเพชร นามวงษ์ กำนันตำบลวาเลย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการสู้รบตามแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ระหว่าง ทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) กองกำลังเคเอ็นดีโอ และฝ่ายพีดีเอฟ ของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมา สู้รับกับทหารเมียนมา ฝั่งตรงข้ามบ้านวาเลย์ใหม่ ยึดเยื้อมานานกว่า 7 วันแล้ว
โดยล่าสุดวันนี้ สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เนื่องจากทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) กองกำลังเคเอ็นดีโอ และฝ่ายพีดีเอฟ ของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมา ได้ถอนกำลังทหารออกจากค่ายอูเกรทะ ตรงข้าม ตำบลวาเล่ย์ของไทย ไปแล้ว ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ จะค่อย ๆ ดีขึ้น
ด้านนายชัชวาลย์ ศรีสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านวาเลย์เหนือ ตำบลวาเลย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เปิดเผยว่า นอกจากทางผู้นำชุมชนได้ดูแลผู้อพยพแล้ว ส่งสำคัญที่สุดต้องดูแลคนในชุมชน อย่างบ้านวาเลย์ ที่เป็นพื้นที่เสี่ยง เพราะอยู่ห่างจากชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร อาจจะได้รับผลกระทบจากการสู้รบ ทางผู้นำชุมชน ฝ่ายปกครอง จึงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ก่อนจะประกาศเสียงตามสาย เพื่ออพยพไปอยู่ที่ปลอดภัยในที่ชุมชนได้เตรียมไว้ นอกจากนี้ ที่ผ่านมาก็ได้มีการซ้อมแผนอพยพอย่างต่อเนื่อง
ผู้ใหญ่บ้านวาเลย์เหนือ ยังเปิดเผยอีกว่า ภาพของเครื่องบิน MiG 29 ที่บินเข้ามาในฝั่งประเทศไทย สร้างความกังวลใจให้ประชนชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้
ล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารไทยได้ตรึงกำลังตลอดแนวชายแดนไทย เพื่อปกป้องอธิปไตย รวมไปถึงคอยสังเกต สถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกัน ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น และยังไม่มั่นใจในสถานการณ์