อารักขาสี จิ้นผิง ครบรอบ 25 ปี ฮ่องกงคืนสู่จีน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะออกเดินทางจากแผ่นดินใหญ่โดยรถไฟความเร็วสูง ที่เชื่อมระหว่างแผ่นดินใหญ่กับฮ่องกงไปถึงเกาลูนตะวันตก บ่ายวันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน ก่อนได้รับการคุ้มกันไปขึ้นรถลีมูซีนกันกระสุนออกจากสถานีรถไฟ ที่ถูกล็อกดาวน์พื้นที่โดยรอบตั้งแต่ก่อนเที่ยงคืนของวันอังคาร เพื่อไปร่วมฉลองครบรอบ 25 ปี ที่อังกฤษส่งมอบฮ่องกงกลับคืนสู่ความปกครองของจีน เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ปี 2540 สิ้นสุดการอยู่ภายใต้อาณานิคมมายาวนานถึง 156 ปี และได้รับสถานะใหม่เป็นเขตบริหารพิเศษของจีน ภายใต้แนวคิด 1 ประเทศ 2 ระบบ 

คณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษชุดที่ 6 ได้มีกำหนดจะทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้เช่นกัน และแม้จะเข้าร่วมพิธีเป็นเวลา 2 วัน แต่ ผู้นำจีนจะไม่ค้างคืนและใช้วิธีเดินทางไป-กลับ มีรายงานด้วยว่าเสิ่นเจิ้นซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษในมณฑลกวางตุ้ง ก็อยู่ภายใต้มาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเช่นกัน เนื่องจากอยู่ตรงข้ามกับฮ่องกง โดยมีการวางกำลังตำรวจสายตรวจตามถนน, วางกำลังอารักขาทางเข้าและออกใกล้มหาวิทยาลัย และใช้เฮลิคอปเตอร์สังเกตการณ์ด้านบน

แต่การที่มีข่าวว่าผู้บริหารระดับสูง 2 คน คือ เอริค ซาง และนายอิริค ชาน ผู้อำนวยการสำนักงานหัวหน้าคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษ ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และอยู่ระหว่างการกักตัว ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูง, ที่ปรึกษารัฐบาล และสมาชิกนิติบัญญัติที่จะเข้าร่วมการเฉลิมฉลอง ต้องเข้ากักตัวตามโรงแรมที่กำหนดไว้เป็นเวลา 1 วัน ภายใต้ระบบปิด โดยวันนี้มีเจ้าหน้าที่และแขกเกือบ 3,000 คน เข้ากักตัวที่โรงแรม แต่มีบางคนชิงกักตัวล่วงหน้าไปก่อนแล้ว รวมทั้งแคร์รี หล่ำ ที่กำลังจะพ้นตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษ กับรัฐมนตรี อีก 2-3 คน โดยเข้าพักที่โรงแรม Grand Hyatt ในย่านหว่านไจ๋ ตั้งแต่เย็นวันจันทร์ ก่อนหน้านี้มีคำสั่งห้ามผู้ร่วมงานออกนอกเส้นทางระหว่างที่พักกับที่ทำงาน ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน ไปจนกว่าจะถึงวันที่ 1 กรกฎาคม และต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR ทุกวัน และต้องฉีดวัคซีนครบ 

ทางการฮ่องกงยังออกมาตรการรักษาความมั่นคงทางอากาศทั่วทั้งเกาะ โดยกำหนดเขตห้ามบิน ห้ามการขึ้นบินของอากาศยาน, โดรน, บอลลูน และพาราไกลเดอร์ ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน ถึง 3 กรกฎาคม รวมทั้งปิดสถานีรถไฟ ปิดถนน ในช่วงการเยือนของผู้นำจีน ทั้งยังเตือนด้วยว่า จะไม่ยอมอ่อนข้อให้อะไรก็ตามที่อาจขัดขวางหรือบ่อนทำลายการรักษาความปลอดภัยไม่กว่ากรณีใด และจะดำเนินการต่อบุคคลใดก็ตามที่ประพฤติตนในลักษณะที่คุกคามชีวิต ทรัพย์สิน และทำลายความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือความปลอดภัยสาธารณะ 

ตำรวจได้ตั้งด่านหลายจุดเป็นระยะทาง 10-20 เมตร ตามถนนสายต่าง ๆ และตั้งเครื่องกีดขวางตามสถานที่สำคัญด้วย ทั้งยังห้ามเข้าพื้นที่รอบศูนย์ประชุมและนิทรรศการฮ่องกง (Hong Kong Convention and Exhibition Centre) กับ "โกลเด้น โบฮิเนีย สแควร์" (Golden Bauhinia Square) ซึ่งเป็นที่ตั้งประติมากรรมรูป "ดอกชงโคบานตลอดกาล" ด้วย 

สำหรับรถไฟความเร็วสูงที่ผู้นำจีนจะใช้ในการเดินทางนี้ มีความยาว 26 กิโลเมตร โดยเชื่อมฮ่องกงกับระบบเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นเครือข่ายรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของโลก เนื่องจากนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากฮ่องกงไปยังจุดหมายปลายทาง 44 แห่ง บนแผ่นดินใหญ่โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟ และรวดเร็วซึ่งการเดินทางระหว่างฮ่องกง-เสิ่นเจิ้น-กวางโจว ใช้ในเวลาแค่ 48 นาทีเท่านั้น