วันนี้ (28 มิ.ย.) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ครม. ได้หารือในการจัดตั้งกองทุนผู้ช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านการผลิต - การบริการ ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีด้านการค้า ทางภาคเกษตรอุตสาหกรรมและภาคบริการ เพื่อให้เกิดศักยภาพด้านการแข่งขัน และปรับตัวเพื่อให้เกิดประโยชน์เสรีด้านการค้าต่อไป
นอกจากนี้ ครม. ยังอนุมัติหลักการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มทางด้าน Center ในประเทศไทย การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มแก่ ผู้ประกอบการที่ให้พื้นที่ของเซิฟเวอร์ เพื่อให้การจัดเก็บประมวลผลเชื่อมต่ออิเล็กทรอนิกส์และให้การสำรองข้อมูลเพื่อป้องกันข้อมูลเกิดความเสียหาย การให้บริการเชื่อมต่อเครือข่ายกับผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตและผู้ให้บริการคลาวด์ เพื่อให้ตอบสนองสนับสนุนประเทศไทยเป็นสูญกลาง Center ของภูมิภาคในอนาคต
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อีกเรื่องที่เป็นผลงานของรัฐบาล คือการพัฒนาพื้นที่ EEC ที่วางรากฐานมาตั้งแต่ปี 61 คณะกรรมการจัดสร้างโครงการพื้นฐานสาธารณูปโภค ระบบโครงข่ายคมนาคมไร้รอยต่อ ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการที่ แม้จะมีปัญหาอุปสรรคอยู่บ้าง ก็จะต้องหาวิธีการดำเนินการที่เหมาะสมซึ่งจะเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ เพื่อยกระดับระบบการขนส่งโลจิสติกส์เพื่อรองรับอุตสาหกรรมอัจฉริยะ พลังงานสะอาด
ครม.จึงได้เห็นชอบอนุมัติแผนดำเนินการโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค รวมทั้งมาตรการส่งเสริมและเทคโนโลยีเพื่อยกระดับโครงข่ายคมนาคม ปี 61 - 70 รวม 71 โครงการ วงเงิน 3.3 แสนล้านบาท ตนเองในฐานะรัฐบาลเชื่อว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ EEC จะกลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจทั้งของไทย และของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต เพื่อเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยด้วย
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชน จากกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เผยว่า ไม่ปฎิเสธว่าในอนาคตอาจมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคมากกว่า 1คน และเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันทีหลังแถลงผล ครม. เพียง 3 นาที