แห่ร้องกองปราบฯ จี้คดีคูปองที่พักทิพย์ พบเสียหายมากกว่าร้อยล้าน

ความคืบหน้ากรณีที่มีผู้เสียหายจำนวนมากร้องไปยัง ทนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความชื่อดัง กรณีถูกหลอกซื้อคูปองที่พักทิพย์ ที่มีการไลฟ์สดขาย โดยจัดโปรลดเหลือ 22 บาท แต่ถึงเวลาใช้จริงไม่ได้ มีผู้หลงเชื่อตกเป็ยเหยื่อจำนวนมาก ทั้งที่ซื้อไปใช้เองและนำไปขายต่อ (อ่านข่าว)

ล่าสุดวันนี้ (27 มิ.ย.) ที่กองบังคับการปราบปราม ทนายรัชพล ได้พาผู้เสียหายจำนวนหลายราย เข้าร้องทุกข์ต่อตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. จากการซื้อคูปองที่พักทิพย์ของ บริษัทคัลเลอร์ โอเชี่ยน จำกัด มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้าน 

นายรัชพล กล่าวว่า วันนี้ได้พาผู้เสียหายจากบริษัทดังกล่าวมาติดตามความคืบหน้าคดี ที่ได้มีการร้องทุกข์กับกองปราบฯ เมื่อช่วงต้นปี ตอนนี้มีผู้เสียหายมากกว่า 1,000 คน จากการซื้อคูปองทิพย์หลายรูปแบบ อาทิเช่น คูปองบ้านพักพูลวิลล่า , คอนโด , สวนน้ำ , อาหาร , ซัพพลายเออร์สินค้าโรงแรม รวมไปถึงพนักงานโรงแรม มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านบาท และเชื่อว่ายังมีคูปองอีกเป็นล้านใบที่เตรียมขายให้กับผู้หลงเชื่อ 

แต่เวลาผ่านไปแล้ว 6 เดือน กลับยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ซึ่งการทำงานของเจ้าหน้าที่หลังจากมีผู้แจ้งความร้องทุกข์ไปแล้ว 30 วัน เจ้าหน้าที่จะต้องแจ้งความคืบหน้าให้กับผู้เสียหาย วันนี้จึงได้นำหนังสือมาถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ช่วยดูแลคดีนี้เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 

ขณะที่ผู้เสียหายรายหนึ่ง เผยว่า ตนได้ดูคูปองบ้านพักพูลวิลล่าที่จังหวัดชลบุรี เมืองพัทยา ผ่านไลฟ์สดของเพจเฟซบุ๊กชื่อว่า Amantara Group ที่มีราคาถูกจากราคาปกติ จึงตัดสินค้าเข้าไปซื้อคูปองและเดินทางเข้าพักตามวันที่กำหนด เมื่อเห็นว่าครั้งที่ผ่านมา คูปองดังกล่าวสามารถพักได้จริงแถมมีราคาถูก จึงตัดสินใจซื้อคูปองผ่านทางช่องทางเดิมอีก แต่คราวนี้ซื้อคูปองจำนวน 120 ใบ เป็นเงิน 60,000 กว่าบาท เพื่อที่จะเก็บไว้เข้าพักเองและนำไปขายต่อทำกำไร แต่เมื่อถึงวันที่เข้าพักตามกำหนด ตนและลูกค้าไม่สามารถเข้าพักได้ จึงรวมตัวกันเข้าไปแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา และต่อมาทราบว่า มีผู้เสียหายอีกหลายรายโดนแบบกัน และยังมีอีกหลายรูปแบบจึงได้เข้าร้องทุกต่อ กองปราบฯ เมื่อช่วงต้นเดือนแต่ไม่มีความคืบหน้า 

ด้าน นางตุ่ม เจ้าของธุรกิจส่งสินค้าของใช้ในโรงแรม เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนได้ทำธุรกิจส่งสินค้าเครื่องของใช้ต่าง ๆให้กับโรงแรม โดยมีคนที่รู้จักแนะนำให้ติดต่อกับทาง บริษัทคัลเลอร์ โอเชี่ยน จำกัด เพื่อทำข้อตกลงธุรกิจ เมื่อ พ.ศ.2554 แต่ตนไม่เชื่อว่าบริษัทดังกล่าวจะอยู่รอดได้ จึงไม่ได้ทำธุรกิจร่วมกัน 
ต่อมาช่วงเดือนเมษายนปีนี้ ตัวแทนจากบริษัทดังกล่าวได้ติดต่อมา เพื่อคุยเรื่องธุรกิจกันอีกครั้ง ตนจึงใจอ่อนให้โอกาสร่วมทำธุรกิจกัน และได้ส่งสินค้าเข้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่บริษัทดังกล่าวเป็นผู้เช่า ทำได้อยู่ประมาณ 2 เดือน เจ้าของบริษัทดังกล่าวไม่เคยมีการโอนค่าใช้จ่ายมายังตน จึงได้ไปแจ้งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองพัทยา 

ด้าน พ.ต.อ.ทีนัฐกรณ์ วัฒนแสงประเสริฐ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ปคบ. ระบุว่า ขณะนี้ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายจำนวนหลายรายแล้ว และกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เชื่อว่าผู้กระทำความผิดยังอยู่ในประเทศ  เนื่องจากทางเพจของบริษัทดังกล่าวยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ ซึ่งหลังจากนี้จะตรวจสอบเส้นทางการเงินและติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย