เป็นประเด็นที่สังคมวิจารณ์เป็นอย่างมาก กรณีที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ประกาศบังคับใช้กฎหมาย เตรียมขอศาลออกกหมายจับผู้ที่ค้างจ่ายใบสั่ง มีผลตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยมุ่งหวังเพื่อแก้ปัญหาจราจรที่เกิดขึ้นโดยผู้ที่ละเมิดกฎจราจรซ้ำ ๆ (อ่านข่าว)
และล่าสุดวันนี้ (23 มิ.ย.) ประเด็นดังกล่าวได้ถูกหยิบยกเข้าสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ลุกขึ้นตั้งกระทู้ถามถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้ยกเลิกนโยบายดังกล่าว รวมถึงยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. (อ่านข่าว)
ขณะที่ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ดูแลงานจราจร ได้กล่าวถึงมาตรการดังกล่าวว่า กรณีที่มีประชาชนแสดงคิดเห็นเกี่ยวกับข้อแนะนำ บช.น. ขอน้อมรับมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์กับประชาชน อย่างไรก็ตาม ข้อคิดเห็นดังกล่าวอาจจะได้รับข้อเท็จจริงที่ไม่ครบถ้วน ยืนยันว่าการดำเนินการเป็นไปตามหลักของกฎหมาย และการดำเนินการดังกล่าวไม่ใช่นโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เป็นการดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมาย มีออกหมายจับดำเนินคดี ศาลมีการพิพากษาไปแล้วหลายราย แต่ไม่ได้เป็นข่าว ส่วนวัตถุประสงค์การดำเนินการนั้น เป็นการสร้างวินัยจราจรเพื่อลดอุบัติเหตุ และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร แต่ละปีมีคนเสียชีวิตกว่า 20,000 คน จึงเป็นสิ่งเร่งด่วนต้องดำเนินการ
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า ส่วนที่มีการกล่าวถึงความผิดจราจรเป็นความผิดเล็กน้อยนั้น ยืนยันว่าถึงแม้ความผิดลหุโทษที่มีโทษเพียงเล็กน้อย แต่ผลกระทบทำให้เสียชีวิต บาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย ถ้าไม่ดำเนินการอะไรก็จะทำให้ความเสียหายเกิดมากขึ้น
ส่วนการกล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเพื่อมุ่งเน้นค่าปรับนั้น พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า ยืนยันว่ามีการประกาศตามขั้นตอนกฎหมาย แสดงความบริสุทธิ์ใจในการดำเนินการ ประชาชนไม่กระทำความผิดก็ไม่จำเป็นต้องเสียค่าปรับหรือเงินรางวัลค่าปรับ จะกระทบกับผู้กระทำความผิดซ้ำ ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรเท่านั้น
"การดำเนินการออกมาด้วยความจริงใจ หลายคนอาจจะไม่เข้าใจ ประณามและด่าทอ แต่เพื่อแลกกับการรักษาชีวิตประชาชนให้ปลอดภัยถือเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามากกว่าความไม่เข้าใจของใครบางคน"
เมื่อถามว่า ระยะเวลา 1 ปี ยืนยันว่าดำเนินการออกหมายเรียก-หมายจับ ทันหรือไม่ พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า ระยะเวลาเพียง 2 - 3 วัน ยังมองไม่ชัดเจนว่ามีผู้มาเสียค่าปรับเพิ่มขึ้นหรือไม่ แต่การดำเนินการดังกล่าวมุ่งหวังให้มีวินัยจราจร อุบัติเหตุลดลง และมีผู้เสียชีวิตน้อยลงมากขึ้น กรอบการดำเนินการตั้งแต่ออกใบสั่งถึงกระบวนการออกหมายเรียกหมายจับ ใช้เวลาประมาณ 99 วัน คาดว่าจะดำเนินการเสร็จทันภายใน 1 ปี หากมีกรณีที่ต้องดำเนินการกรณีดังกล่าว
เมื่อถามว่า บางคนมองว่าเหมือนวิธีที่จะขู่ซึ่งไม่ตรงกับขั้นตอนการพิจารณานั้น พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า หน้าที่ของตำรวจทำตามกฎหมาย ส่วนการออกหมายจับอยู่กับดุลยพินิจของศาล ซึ่งตำรวจจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ถามว่าข้อเสนอประชาชนเสนอเข้ามานั้น กรณีที่บอกว่าเป็นโทษเล็กน้อยนั้น แต่หากลดการสูญเสียชีวิต บาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหายเป็นเรื่องสำคัญกว่า และดำเนินการกับผู้กระทำความผิดกฎหมายจราจรซ้ำมาก เมื่อทำการตรวจสอบพบแล้วถึงจะดำเนินการตรวจสอบ ยกตัวอย่างกรณีมีใบสั่ง 59 ครั้ง แล้วเกิดครั้งที่ 60 เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตจะทำอย่างไร ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบผู้กระทำความผิด