20 มิถุนายน 2565 นายพิเชษฐ์ เจียมบุรเศรษฐ์ นายกสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมผู้ประกอบการขนส่ง และบริษัทรถร่วมทั่วประเทศ ว่า มาตรการการดำเนินการเพื่อพยุงธุรกิจเดินรถให้สามารถดำเนินการต่อระหว่างรอภาครัฐพิจารณาข้อเสนอในการใช้โครงสร้างอัตราค่าโดยสารที่ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง เมื่อปี 2548 ซึ่งเป็นอัตราที่สะท้อนต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
มติที่ประชุมต่างเห็นพ้องกันว่า ไม่สามารถประกอบการเดินรถได้ตามปกติ เพราะต้องแบกภาระต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง โดยต้องแบกต้นทุนเพิ่มขึ้นถึงเที่ยวละกว่า 1,400 บาทในสัปดาห์ที่แล้ว เป็น 1,600 บาทในสัปดาห์นี้
“ แนวโน้มน้ำมันเชื้อเพลิงยังจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เพื่อประคับประคองธุรกิจไม่ให้ต้องแบกภาระจนต้องปิดกิจการ ผู้ประกอบการขนส่งและบริษัทฯรถร่วม จึงมีมติกำหนดให้ลดเที่ยววิ่งลง 80% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้ เป็นต้นไป ”
อย่างไรก็ตาม จะมีการประเมินสถานการณ์ว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจต่อได้หรือไม่ โดยประชาชนผู้เดินทางสามารถตรวจสอบเที่ยววิ่งในแต่ละวันได้ทางเว็บไซต์ของทุกบริษัทฯ
สำหรับ เส้นทางของแต่ละบริษัทฯ ที่ยังเปิดให้บริการ จำนวน 143 เส้นทาง ดังนี้
นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการรถร่วม บขส.อื่นๆ แจ้งความประสงค์ลดเที่ยววิ่ง ตามมติที่ประชุมในครั้งนี้ด้วย ขณะเดียวกันการลดเที่ยววิ่งลง 80% ในครั้งนี้ อาจส่งผลกระทบต่อผู้เดินทาง เนื่องจากเป็นความจำเป็นเพราะผู้ประกอบการไม่สามารถแบกรับต้นทุนน้ำมันต่อไปได้ เพราะอัตราค่าโดยสารในปัจจุบัน เป็นอัตราที่ใช้เมื่อปี 2562 ขณะที่อัตราค่าน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ลิตรละ 27 บาท
ทั้งนี้ในปัจจุบัน ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงปรับขึ้นมาอยู่ที่ลิตรละ 35 บาท และยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ยังคงเพิกเฉยไม่นำอัตราโครงสร้างค่าโดยสาร ตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางเมื่อปี 2548 มาใช้ ผู้ประกอบการคงต้องประกาศหยุดเดินรถในที่สุด
ขอบคุณข้อมูล : ฐานเศรษฐกิจ