พ่อค้าขายเปลโอด ! น้ำมันแพง รายได้หด 3 เท่า เร่ขายไม่คุ้มต้องขายริมถนน

เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอาชีพขับรถเร่ขายของ โดยพ่อค้าขับรถเร่ขายของรายหนึ่งในบ้านท่าหลวง ต.ท่าหลวง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ชื่อนายสนอง ศิริงาน อายุ 71 ปี ทำอาชีพขี่รถ จยย. พ่วงข้างเร่ขายเปลนอน บอกว่า ได้นำภูมิปัญญาชาวบ้านมาประยุกต์ทำเปลนอนจากวัสดุเหลือใช้ โดยนำเศษผ้า สายรองเท้า ริบบิ้นที่ซื้อจากโรงงานในราคาถูก และวัสดุเหลือใช้ที่หาได้จากท้องถิ่น มาถักสานเป็นเปลนอน แล้วขับรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วง ตระเวนขายตามหมู่บ้าน ในราคาผืนละ 50-100 บาท

ซึ่งวัสดุเศษผ้าที่ใช้ในการถักสานจะสั่งซื้อจากโรงงานใน จ.นครราชสีมา ในราคากิโลกรัมละ 30 บาท แต่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ไม่สามารถขับรถเร่ขายได้เหมือนก่อน เพราะขายเปลได้กำไรไม่มาก จึงไม่คุ้มทุนที่จะขับรถเร่ขาย เดิมเคยเติมน้ำมันวันละ 100 บาท แต่ปัจจุบันนี้ต้องเติมวันละ 200 บาท ซึ่งเป็นต้นทุนที่สูงมาก จึงได้สร้างเพิงเปิดร้านขายริมถนนพิมาย-บ้านท่าหลวง ตั้งแต่เชื้อโควิด-19 ระบาดมารอบแรกจนถึงปัจจุบัน ตนได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะไม่สามารถขับรถเร่ขายเปลได้เหมือนก่อน มาเจอราคาน้ำมันแพงอีก จึงเลือกที่จะปักหลักขายเปลริมถนน เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย

แต่การขายริมถนนจะขายได้ไม่ค่อยดีเท่ากับการขี่รถเร่ขาย เพราะนานๆ จะมีลูกค้าผ่านมาซื้อ ขายได้เพียงวันละ 300-500 บาทเท่านั้น เทียบกับเมื่อก่อนที่ขี่รถเร่ขายได้วันละ 1,000-1,500 บาทเลยทีเดียว ถือเป็นสถานการณ์วิกฤติจากผลกระทบราคาน้ำมันแพงในขณะนี้