หนุ่มฉุนเมาหนักโดนห้ามเข้าร้านเหล้า ฉวยโอกาสร้านปิดทุบกระจกเผาร้าน

วันนี้ (19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 04.00 น. ที่ผ่านมา ตร.สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในร้าน เอ้กตี้ส์ บาร์แอนด์บิสโทร ซอยพุทธบูชา 36 จึงรุดเข้าตรวจสอบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่หน่วยงานดับเพลิง และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเข้าพื้นที่เกิดเหตุ โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง พบเเสงเพลิงและกลุ่มควันเป็นจำนวนมากภายในบริเวณชั้นล่างของตัวอาคารร้านดังกล่าว 

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครจึงเร่งรัดจัดวางหัวจ่ายฉีดน้ำดับเพลิงอย่างเร่งด่วนเพื่อระงับเหตุการณ์ และใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง เพลิงจึงสงบแสงเพลิงหมดไปเหลือเพียงแต่กลุ่มควัน อาสาสมัครจึงทำการจัดอุปกรณ์เร่งระบายควันออกจากตัวอาคาร 

ตรวจสอบจากภายในอาคารดังกล่าวพบความเสียหายบริเวณห้องโถงกลางชั้นล่างทั้งหมด แล้วยังตรวจสอบพบแกลลอนสีเขียวบรรจุน้ำมัน 6 ลิตร ตกอยู่บริเวณใกล้เคียงจุดที่เกิดเหตุรวมถึงไฟเเช็กสีเขียวตกอยู่ข้าง ๆ เช่นกัน คาดว่าน่าจะเป็นของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุทำตกเอาไว้ ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตำรวจจึงได้ทำการปิดล้อมพื้นที่บริเวณโดยรอบเพื่อรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้านในอาคารดังกล่าวเพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย 

สอบถาม น.ส.ฉวีวรรณ ทัดไทยสง อายุ 42 ปี ผู้จัดการร้าน ทราบว่า ร้านปิดเที่ยงคืน ตนได้กลับออกจากร้านไปตอนประมาณตี 2 เกือบตี 3 เที่ยงคืน ปกติตนจะนอนพักที่ร้าน แต่วันนี้ตนมีงานจะไปวัดแถวพระราม 3 เลยกลับบ้านมา แล้วมีคนโทรมาบอกตนจึงรีบกลับเข้ามาที่ร้าน แต่จะโทรบอกแม่ครัวให้มาดูก่อนเพราะเค้าอยู่ใกล้กว่า พอมาถึงก็เห็นว่ากู้ภัยดับเพลิงมาดับแล้ว

น.ส.ฉวีวรรณ กล่าวว่า แม่ครัวเล่าว่า ไฟไหม้ที่เก้าอี้โซฟา แต่มีกระจกด้านข้างแตกด้วย และก่อนหน้านี้มีผู้ชายคนหนึ่ง ลักษณะเมามาจากไหนทราบมานั่งโต๊ะด้านนอกร้าน พนักงานก็เข้าไปถามว่า จะรับเครื่องดื่มอะไรไหมแต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่สั่งอะไรเลย ซ้ำยังนั่งแบบคนเมาจนลูกค้าโต๊ะอื่นรำคาญ ทางร้ายจึงได้เชิญออกไป แต่ก็ไม่ออก จนร้านปิด ชายคนดังกล่าวก็เดินออกไป สักพักก็เดินกลับเข้ามาอีก จนตนจะกลับออกจากร้านแล้ว ก็เห็นเดินจะเข้ามาอีก แฟนตนจึงยื้อยุดเพื่อไม่ให้ชายคนดังกล่าวเข้ามาในร้านอีก แต่ด้วยที่ชายคนดังกล่าวเมา จึงเซล้มลง แล้วก็ลุกเดินไป

ตนจึงยืนดูสักพักเห็นว่าไปจริงแล้ว สังเกตเห็นกระเป๋าเงินตกอยู่บริเวณที่ล้ม จึงหยิบขึ้นมาเปิดดูและถ่ายบัตรประชาชนเก็บไว้ ซึ่งตนเอะใจยังไงไม่รู้จึงคิดถ่ายไว้ แล้วก็โยนไว้ตรงต้นไม้หลังป้าย เผื่อใครมาเอาไป สักพักชายคนนั้นก็เดินย้อนกลับมาเก็บคืนไปจริง ๆ ตนจึงกลับออกไปพระราม 3 แล้วพอเกิดเรื่องตนจึงสงสัยเลยลำดับเหตุการณ์มาปะติปะต่อกันแล้วสงสัยว่า น่าจะสาเหตุนี้หรือไม่ เป็นไปได้หรือไม่ที่ชายคนนั้นอาจจะโมโห อันนี้ตนก็ได้แค่สงสัยเท่านั้น 

ทางด้าน น.ส.อวิภาวดี ศรีจันทึก อายุ 21 ปี พนักงานส่งของร้านข้าง ๆ กล่าวว่า ตนมาส่งของกับแฟน ประมาณตี 3 เกือบตี 4 พอมาถึงก็ลงรถไปได้กลิ่นเหม็นไหม้ จึงเดินมองดูรอบใกล้ ๆ แต่ก็ไม่เห็น จึงขึ้นไปนั่งรอบบนรถ ระหว่างที่แฟนของตนลงของเห็นไฟไหม้ในร้าน จึงมาเรียกตนลงไปดูก็เห็นไฟไหม้จากข้างในร้าน เมื่อเดินดูรอบ ๆ เห็นตรงข้างร้านมีประตูกระจกแตกอยู่ ใต้ต้นไม้มีถังน้ำมันกำลังติดไฟตนจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ เพราะปกติจะมีคนนอนในร้านตนกลัวจะเป็นอันตราย จึงรีบโทรแจ้งให้มาช่วยเหลือ 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดภายในที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้ ยังสรุปสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ถึงจะสรุปได้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรกันแน่ ส่วนผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ก่อนที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป