svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ธนาคารออมสินผนึกทิพยฯ-บางจากฯ รุกสินเชื่อที่ดิน

10 มิถุนายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ออมสิน ตั้งบริษัทร่วมทุน ทิพย-บางจาก ตั้งบริษัท มีที่ มีเงิน รุกปล่อยสินเชื่อที่ดิน ขายฝาก หวังช่วยเหลือเอสเอ็มอี ประชาชนเข้าถึงสภาพคล่องคาดคิดดอกเบี้ยต่ำกว่าตลาดที่ 7-9% ต่ำกว่าตลาดที่ปล่อยกู้ 15-30% เริ่มปล่อยกู้ต.ค.นี้ หวังปีแรกปล่อยกู้แตะ 2หมื่นล้าน

ธนาคารออมสินผนึกทิพยฯ-บางจากฯ รุกสินเชื่อที่ดิน

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ล่าสุดธนาคารได้ลงนามบันทึกข้อตกลงการทำธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝาก ร่วมกัน 3องค์กร คือออมสิน บริษัททิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชน) และบริษัท บางจาก คอร์เปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน “มีที่ มีเงิน จำกัด” โดยมีวัตถุประสงค์ในการเข้ามาทำธุรกิจสินเชื่อที่ดินและขายฝาก

ธนาคารออมสินผนึกทิพยฯ-บางจากฯ รุกสินเชื่อที่ดิน

หลักๆเพื่อ ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และประชาชนทั่วไปที่ขาดสภาพคล่อง และได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผ่านการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าในตลาด โดยเบื้องต้นกำหนดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่ออยู่ที่ 7-9% ซึ่งต่ำกว่าตลาดที่ปัจจุบันคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ 15-30% เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงทางการเงินและเข้าถึงสินเชื่อด้วยต้นทุนที่ถูกลงได้

โดยการเข้ามาปล่อยสินเชื่อที่ดิน และขายฝากที่ดิน คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ ต.ค. ปี 2565 นี้ และคาดว่าภายใน 1ปี จะเห็นการปล่อยสินเชื่อสู่ระดับ 1-2 หมื่นล้านบาทได้

ธนาคารออมสินผนึกทิพยฯ-บางจากฯ รุกสินเชื่อที่ดิน

“วันนี้ดอกเบี้ยในตลาดสูงเกินความเป็นจริง และเราเห็นเอสเอ็มอี และประชาชนจำนวนมากที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ หรือเข้าถึงด้วยดอกเบี้ยที่สูงมาก และเราเชื่อว่าเมื่อเราดึงดอกเบี้ยลงมา จะช่วยให้ดอกเบี้ยตลาดลงมาด้วย เหมือนตอนที่ทำจำนำทะเบียน ที่ช่วยดึงดอกเบี้ยในตลาดลดต่ำลงได้ ซึ่งเป็นผลดีกับผู้บริโภค”

ธนาคารออมสินผนึกทิพยฯ-บางจากฯ รุกสินเชื่อที่ดิน

อย่างไรก็ตาม นอกจากปล่อยสินเชื่อที่ดิน และขายฝากที่ดินแล้ว ระยะถัดไป บริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะขยายการปล่อยสินเชื่อไปสู่ สินเชื่อบุคคลด้วย โดยคาดว่าจะเห็นได้ในกลางปี 2565 รวมถึงขยายไปสู่การปล่อยสินเชื่อประเภทอื่นๆเพิ่มเติมในอนาคต เพราะจากการร่วมทุนทั้ง 3ราย ทำให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ในการขยายตลาด จากฐานลูกค้าธนาคารออมสินที่มีกว่า 19ล้านคน บวกกับสาขาของธนาคารออมสินที่มี 1,052 แห่ง ขณะที่ทิพยมีฐานลูกค้าถึง 8 ล้านคน และบางจาก 5 ล้านคนและมีสถานีบริการน้ำมันถึง 1300 แห่ง

ส่วนในอนาคต จะผลักดันบริษัทดังกล่าวเข้าตลาดหลักทรัพย์หรือไม่นั้น ยังไม่ใช่เป้าประสงค์หลักของการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน แต่อนาคตหากบริษัทมีกำไรที่ดี ยั่งยืนมากขึ้น การเข้าตลาดหลักทรัพย์ก็เป็นเรื่องที่พิจารณาได้ในอนาคต

สำหรับการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน บริษัทที่มี มีเงิน จำกัด จัดตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 1พันล้านบาท โดยออมสินถือหุ้น 49% ทิพย ถือหุ้น 31% และบางจากถือหุ้น 20% โดยธนาคารออมสินทำหน้าที่ปล่อยสินเชื่อ

logoline