ย้อนรอยคดี "จ.ส.อ." ฆ่าโหดกรีดร่างถ่วงน้ำ "ครูหนิง" จบฉากความรักสามเส้า

เป็นคดีสะเทือนขวัญสังคมไทย เมื่อเจ้าหน้าที่พบร่างอันไร้วิญญาณของ “ครูหนิง” วนิดา อ่วมเทศ อายุ 40 ปี ชาวชุมพร ครู กศน.บ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี กลายเป็นศพถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ถ่วงน้ำอยู่ภายในบ่อ พื้นที่หมู่ 1 ต.ดอนยาง ซึ่งเป็นบ้านพักของฆาตกรที่ชื่อ “จ.ส.อ.สุรินทร์ พรามน้อย” อายุ 38 ปี ทหารค่ายฝึกรบพิเศษแก่งกระจาน

โดยคดีนี้เริ่มต้มจากวันที่ 26 พ.ค.เวลาประมาณ 19.00 น.“ครูหนิง” หายตัวปริศนาไปพร้อมรถกระบะโตโยต้า รีโว่ 4×4 สีบรอนซ์ ทะเบียน บพ 9114 เพชรบุรี ซึ่งในวันเดียวกันนั้น ผู้ตายได้โพสต์เฟซบุ๊ก 3 ครั้ง อย่างมีนัยสำคัญ เช่น เวลา 07.13 น.ตัวเธอโพสต์รูปภาพใส่บาตรพระ พร้อมระบุข้อความว่า “ช่วงนี้ เข้าวัดเข้าวา...ทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวรสักหน่อย #สะสมบุญบ้าง”

จากนั้นเวลา 13.35 น.โพสต์รูปภาพกำลังกรวดน้ำ พร้อมเขียนข้อความประกอบ “ว่าจะอโหสิให้อภัย!! สงสัยต้องจองเวร #ผลของการตักบาตรเมื่อเช้า #ต้องขอบคุณผู้หวังดีประสงค์ร้ายนะ!!”

กระทั่งเวลา 17.59 น.หรือเป็นเวลาเพียง 1 ชั่วโมง ก่อนที่ “ครูหนิง” จะหายตัวปริศนา มีการโพสต์ภาพอาหาร และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมระบุข้อความว่า “หลัง 00:00 นี้ไป ทุกอย่างคืออดีต #น้ำหนักก็เช่นกัน!!”

ซึ่งจากโพสต์เหล่านั้น ทางเพื่อนของผู้ตาย เล่าว่า ช่วงกำลังแยกย้ายกลับบ้านในวันที่ 26 พ.ค.สังเกตเห็นมีสายโทรศัพท์ปริศนา โทรเข้ามาหา “ครูหนิง” ที่มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างชัดเจน  

จนเช้าวันรุ่งขึ้น วันที่ 27 พ.ค.“ครูหนิง” มีหน้าที่ต้องไปกับรถห้องสมุด แต่ไม่ได้มาทำงาน และเพื่อนๆ ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากมีการปิดโทรศัพท์ กระทั่งวันที่ 30 พ.ค.“ครูหนิง” ไม่ได้ไปอบรมที่ อ.เมือง ตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งบรรดาญาติ และเพื่อนร่วมงาน รู้สึกผิดสังเกต จึงเริ่มประกาศตามหาตัวผู้ตาย

เมื่อเข้าสู่วันที่ 31 พ.ค.ได้มีข้อความส่งมาที่โทรศัพท์ของพี่สาว และเพื่อนผู้ตายว่า หมายเลขโทรศัพท์ของ “ครูหนิง” สามารถติดต่อได้แล้ว แต่เมื่อโทรกลับ มีการตัดสายทิ้ง 2 ครั้ง

กระทั่งวันที่ 1 มิ.ย.มีข้อความส่งเข้าโทรศัพท์เพื่อน ทำนองว่า “ขอไปเที่ยวภาคเหนือ 1 สัปดาห์ เพราะบรรยากาศดีมาก มีคนดูแลอย่างดี ไม่เอาแล้วงาน จะกลับไปทำสวนทุเรียนที่บ้าน” แต่เมื่อโทรกลับไป ไม่มีใครรับสาย ทางญาติจึงเดินทางเข้าแจ้งความบุคคลสูญหายที่ สภ.แก่งกระจาน

วันที่ 6 มิ.ย.ทางตำรวจชุดสืบสวน เข้าตรวจสอบบ้านพักของ “ครูหนิง” เพื่อเก็บหลักฐาน และตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่คาดว่า รถของผู้ตายขับผ่าน

จากนั้นวันที่ 7 มิ.ย.เริ่มมีความคืบหน้าทางคดี พร้อมความหวังของญาติๆ ว่า ใกล้จะเจอตัว “ครูหนิง” ภายหลังตำรวจเชิญตัว “จ.ส.อ.สุรินทร์” ผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ โดยยอมรับว่า มีภรรยาตัวจริงอยู่แล้ว แต่แอบคบหาผู้ตาย ซึ่งเป็นการคบซ้อน โดยปฏิเสธไม่รู้เรื่องหายตัวปริศนา

ซึ่ง “จ.ส.อ.สุรินทร์” ให้การมีพิรุธหลายอย่าง จนสุดท้ายสิ่งที่หลายคนไม่อยากได้ยินก็เกิดขึ้น โดยวันที่ 9 มิ.ย.ตำรวจนำตัวผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำรอบ 2 ก่อนยอมสารภาพว่า “ฆ่าครูหนิง” จริง โดยเวลา 22.30 น.เจ้าหน้าที่ได้ค้นพบศพถ่วงน้ำดังกล่าว

“จ.ส.อ.สุรินทร์” สารภาพว่า ลงมือฆ่า “ครูหนิง” ช่วงเช้ามืดวันที่ 27 พ.ค.ด้วยการบีบคอจนอีกฝ่ายสิ้นใจ เพราะมีอารมณ์โมโห จาการมีปากเสียงทะเลาะกัน

โดยศพที่เจอครั้งแรก มีสภาพเริ่มเน่าเปื่อย มีก้อนอิฐ 2 ก้อน แหนบรถยนต์ 1 เส้น เหล็กรางรถไฟยาวประมาณ 1 เมตร ผูกติดกับเชือก ที่มีการมัดติดขาสองข้างและเอวผู้ตาย พร้อมมัดมือสองข้าง ลักษณะไขว้หลังถ่วงลงในน้ำ

นอกจากนี้ยังมีร่องรอยถูกของมีคม กรีดตามลำตัว ท้อง หลัง และก้นกบ โดย “จ.ส.อ.สุรินทร์” บอกว่า กรีดศพป้องกันไม่ให้ศพอืดลอยขึ้นเหนือน้ำ และตัดต้นกล้วยประมาณ 20 ต้น ทับบนผิวน้ำอีกชั้น เพื่อไม่ให้ใครเห็นศพ เมื่อลอยขึ้นมา

โดยคดีนี้มีชนวนเหตุมาจากความรักสามเส้า เมื่อ “จ.ส.อ.สุรินทร์” มีภรรยาอยู่แล้ว และคบซ้อน “ครูหนิง” โดยวันเกิดเหตุ ภรรยาตัวจริงบอกให้ทั้งคู่เลิกยุ่งเกี่ยวกัน แต่ระหว่างที่ฝ่ายชายมาเคลียร์ผู้ตาย กลับเป็นวันสุดท้ายที่ตัวเธอมีชีวิต ส่วนรถกระบะของผู้ตาย ถูกเอาไปจำนำที่บ้านหลังหนึ่ง